ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

กรุสมบัติสุราของราชวงศ์​รัสเซีย​แตก​ มูลค่าสุราในวังมีมูล​ค่ามากกว่า100ล้านเหรียญ​สหรัฐ


เต็มเหนี่ยวไปเลยพี่
ตอนที่บอลเชวิกบุกยึดพระราชวังฤดูหนาว พวกเขาได้เจอกับห้องเก็บไวน์ที่มีอยู่หลายแสนขวด เลยพากันดื่ม สุดท้ายแฮงค์กันไปเป็นเดือน!

ปี 1917 คือปีที่พลิกโฉมหน้าของรัสเซียไปตลอดกาล เพราะปีดังกล่าวได้เกิดปฏิวัติถึงสองครั้งด้วยกัน ครั้งแรกคือในเดือนมีนาคม ซาร์นิโคลัสที่ 2 สละราชสมบัติ ระบอบกษัตริย์รัสเซียสิ้นสุด รัสเซียเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐภายใต้การนำของรัฐบาลเฉพาะกาล

แต่รัฐบาลเฉพาะกาลก็ไม่ได้มีอำนาจเบ็ดเสร็จ เพราะกลุ่มคอมมิวนิสต์บอลเชวิกของวลาดิเมียร์ เลนิน ก็แย่งชิงอำนาจกับรัฐบาลเฉพาะกาล สุดท้ายในเดือนพฤศจิกายน บอลเชวิกก็ก่อการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลเฉพาะกาล บอลเชวิกบุกโจมตีพระราชวังฤดูหนาวในกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก อันเป็นที่ทำการของรัฐบาลเฉพาะกาล

กองกำลังบอลเชวิกถูกกำชับมาว่า ห้ามทำลายทรัพย์สินใด ๆ ภายในพระราชวังฤดูหนาว เพราะตามอุดมการณ์คอมมิวนิสต์ ทรัพย์สินเป็นของส่วนรวมของคนทุกคน แต่ก็เดาได้ไม่ยาก กองกำลังบอลเชวิกไม่ได้ทำตาม มีการทำลายและปล้นทรัพย์สินภายในพระราชวัง

ระหว่างที่กองกำลังบอลเชวิกสำรวจภายในพระราชวัง พวกเขาก็ได้เจอกับห้องเก็บไวน์ที่อยู่ชั้นใต้ดิน ภายในห้องมีสุราหลากหลายชนิดไม่ว่าจะเป็น ไวน์ คอนยัค วิสกี้ และวอดก้า มากกว่า 3 แสนขวด มูลค่ารวมกันเกือบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สถานที่แห่งนี้ ยังเป็นที่เก็บไวน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกในตอนนั้นอีกด้วย

เมื่อเห็นสุรามีหรือที่บุรุษจะไม่สนใจ กองกำลังบอลเชวิกเลยพากันจัดปาร์ตี้เลี้ยงฉลองภายในพระราชวังซะเลย สุราถูกเปิดขวดแล้วขวดเล่า กลายสภาพเป็น Hangover เวอร์ชั่นบอลเชวิก เท่านั้นยังไม่พอ ชาวเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กก็เข้ามาแจมด้วย 

ปาร์ตี้ในพระราชวังฤดูหนาวกินเวลาเป็นเดือน พอรู้ตัวอีกที รัฐบาลของบอลเชวิกก็เห็นแต่ความวุ่นวายเละเทะไปทั่ว  รัฐบาลจึงออกคำสั่งให้หยุดเอาสุราในพระราชวังมาดื่ม ออกกฎอัยการศึกเพื่อควบคุมสถานการณ์ รวมถึงสั่งให้เอาสุราไปเททิ้งลงท่อระบายน้ำ และปาทิ้งลงไปในแม่น้ำเนวา

แม้จะมีคำสั่งที่เข้มข้นแบบนี้ แต่ก็ยังมีคอสุราหลายคนยังไม่ยอมหยุด บางคนไปรอที่ทางออกท่อระบายน้ำเพื่อรินดื่มสุราจากตรงนั้น บางคนก็ลงทุนวิ่งลงไปในแม่น้ำเนวาที่ตอนนั้นเย็นเป็นน้ำแข็ง เพื่อที่จะได้เอาขวดสุราขึ้นมา 

ออร์แลนโด ฟิเกส (Orlando Figes) ศาสตราจารย์ด้านประวัติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยลอนดอน กล่าวถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้ว่า 

“เป็นเวลาหลายสัปดาห์ที่ความโกลาหลดำเนินต่อไป – กฎอัยการศึกถูกบังคับใช้ – จนกระทั่งในที่สุด สุราก็หมดลงในปีเก่า และเมืองหลวงก็ตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการเมาค้างครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์”

รัสเซียกับสุราเป็นของคู่กันจริง ๆ 

ปล. ภาพประกอบไม่ได้เป็นเหตุการณ์จริงในปี 1917 แต่เป็นการจำลองเหตุการณ์ในช่วงทศวรรษ 1920 

• Armchair Sommelier. Wine, Words & Wednesday, No. 81 (The Biggest Hangover In History). https://bit.ly/3o60aHt
• Cracked. 6 Historic Events You Didn't Realize Everyone Was Drunk For. https://bit.ly/3z8KREi
• World of Fine Wine. Wine in history: Raid the cellars! https://bit.ly/3IXLCnf

รายการบล็อกของฉัน