เดจาวูความลึกลับที่วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้แล้ว!

“เดจาวู” ความลึกลับอย่างหนึ่งของโลก วิทยาศาสตร์สามารถอธิบายปรากฏการณ์นี้ได้แล้ว!

เคยไหมครับ ที่บางครั้งมีความรู้สึกว่า ตนเองเคยประสบกับเหตุการณ์บางอย่าง แล้วคิดว่าเคยเห็นภาพเหจุการณ์นั้นแล้ว ราวกับว่ามันเคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า “เดจาวู” นั่นเองครับเดจาวู หรือ déjà-vu เป็นคำศัพท์ที่ถูกใช้ครั้งแรกโดย “Emile Boirac” นักจิตวิทยาชาวฝรั่งเศส 

ซึ่งหมายถึงปรากฏการณ์ที่เรามีความรู้สึกราวกับว่า เคยประสบกับเหตุการณ์เช่นเดียวกับที่กำลังเจออยู่ ทั้งๆที่อาจจะเพิ่งเคยเกิดขึ้นครั้งแรก โดยปรากฎการณ์นี้คือสิ่งที่เป็นปริศนาของโลก ถึงแม้จะมีทฤษฎีคาดเดาที่รองรับอยู่มากมาย แต่ก็ยังไม่เคยได้รับการพิสูจน์เสียทีแต่ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายทฤษฎีใหม่ของการเกิด “เดจาวู” ได้แล้ว โดย “Akira O’Connor” ศาสตราจารย์ชาวสก็อตแลนด์ที่คิดว่า เดจาวูเกิดขึ้นจาก การที่สมองตรวจเช็คความทรงจำของเราเอง และเพื่อที่จะยืนยันทฤษฎีนี้ ศาสตราจารย์ได้สร้างชุดการทดลองเพื่อที่จะดึงปรากฏการณ์เดจาวูของผู้ร่วมทดลองออกมา โดยจะบอกชุดคำศัพท์ให้แก่ผู้ร่วมทดลอง 

ซึ่งคำศัพท์นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกัน แต่ในชุดคำศัพท์จะไม่มีศัพท์ที่เป็นจุดเชื่อมโยงของคำศัพท์เหล่านั้น ยกตัวอย่างชุดคำศัพท์ มีคำว่า pillow, bed, night แต่กลับไม่มีคำศัพท์คำว่า sleep อยู่ในนั้น ทันทีที่บอกชุดคำศัพท์แก่ผู้ร่วมทดลองเสร็จ 

ทีมวิจัยจะถามเลยว่า ได้ยินคำศัพท์ที่ประกอบด้วยตัวอักษร “S” หรือเปล่า และคำตอบของผู้ร่วมทดลองคือ “ไม่” แต่หลังจากที่ทิ้งช่วงไปสักพัก ทีมวิจัยก็จะถามคำถามเดิมแก่ผู้ร่วมทดลองอีกครั้ง ได้ยินคำศัพท์ที่ประกอบด้วยตัวอักษร “S” หรือเปล่า ในคราวนี้ผู้ร่วมทดลองส่วนใหญ่จะตอบเหมือนกันว่า “Sleep” ซึ่งพวกเขาจะเริ่มคิดว่าเคยได้ยินคำนี้จริงๆ เพราะมันสมเหตุสมผลมากที่คำศัพท์นี้จะอยู่ในชุดคำศัพท์พวกนั้น ในตอนนี้สมองของผู้ร่วมทดลองจะแก้ไขความทรงจำเดิมเสียใหม่ และนี่คืออาการที่เรียกว่า เดจาวู นั่นเอง

จากการสร้างภาพด้วยเรโซแนนท์แม่เหล็ก (Functional MRI) แสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเดจาวูนั้น ส่วนของสมองที่ทำงานมากที่สุดคือส่วนของ “การตัดสินใจ” ไม่ใช่ “ความทรงจำ”

ศาสตราจารย์ Akira O’Connor จึงสันนิษฐานว่า สาเหตุที่สมองส่วนดังกล่าวสร้างความรู้สึกเดจาวูขึ้นมานั้น ก็เพราะว่าสมองได้ตรวจเช็คความทรงจำของเราเพื่อตรวจสอบหาข้อผิดพลาด และเมื่อมันพบว่ามีข้อมูลที่ไม่สอดคล้องกัน สมองก็จะแก้ไขให้ถูกต้อง “สมองของเราได้คิดอยากให้มันเกิดขึ้นแบบนั้น จึงเกิดเป็นความทรงจำใหม่ขึ้นโดยไม่รู้ตัว” 

นั่นทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่า เหตุการณ์นี้มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งที่มันเพิ่งจะเคยเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าทฤษฎีนี้อาจจะดูน่าเชื่อถือมากที่สุดในตอนนี้ อย่างไรก็ตามยังมีข้อมูลที่ต้องเก็บเกี่ยวอีกมาก จึงจะสามารถพิสูจน์ได้ว่าทฤษฎีนี้คือความจริง ซึ่งถ้าหากว่าทฤษฎีนี้เป็นความจริง ก็หมายความว่าเราสามารถไขปริศนาลึกลับอีกหนึ่งอย่างของโลกได้แล้วนั่นเองครับ