หญิงคนเดียวที่ถูกอุกกาบาตชน จนชีวิตพังราวกับโดนคำสาป

หญิงคนเดียวที่ถูกอุกกาบาตชน จนชีวิตพังราวกับโดนคำสาป

มีแค่เพียงไม่กี่คนเท่านั้นในประวัติศาสตร์ ที่เคยมีข่าวว่าถูกอุกกาบาตตกใส่ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ถูกอุกกาบาตชน นั่นคือ แอน ฮอดจ์ส ผู้หญิงจากอลาบามา ที่ถูกหินจากอวกาศขนาดเท่ากับลูกฟุตบอลพุ่งเข้าใส่ แต่โชคดีที่รอดมาได้อย่างไม่น่าเชื่อในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1954

แอน ฮอดจ์ส กำลังอยู่ในระหว่างงีบหลับในช่วงบ่าย ที่บ้านของเธอในเมืองซิลาคอกา รัฐอลาบามา แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า ทะลุหลังคาบ้านของเธอ เข้าชนกับวิทยุและกระดอนมาชนกับด้านข้างของเธอ โดยทิ้งเป็นรอยช้ำขนาดใหญ่เอาไว้

แน่นอนว่าหินก้อนนี้คืออุกกาบาตที่มาจากอวกาศ โดยมันมีน้ำหนักราว 8.5 ปอนด์ และยังคงอุ่นอยู่เมื่อไปสัมผัส ในขณะเดียวกัน ก็มีรายงานจากชาวบ้านในบริเวณนั้นว่า มีการพบเห็นลูกบอลไฟสีสว่างสดใสพุ่งตกมาจากท้องฟ้า

แค่เพียงไม่นาน แอน ฮอดจ์ส กลายเป็นบุคคลที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก มีผู้คนมากมายต้องการไปสัมผัสกับรอยช้ำ “รูปสับปะรด” ของเธอที่เหมือนกับคำสาปติดตัวเธอ นักข่าวจากทั่วโลกก็ต้องการมาสัมภาษณ์ ถึงประสบการณ์ที่เธอเฉียดตายมาได้

และด้วยความที่โลกกำลังอยู่ในยุคของสงครามเย็น ทางรัฐบาลของอเมริกากลัวว่า อุกกาบาตลูกนี้จะเป็นดาวเทียมลับของโซเวียต หรือที่แย่ไปกว่านั้น มันอาจจะเป็นอาวุธอะไรบางอย่างที่ใช้โครงสร้างเป็นก้อนหิน

ส่วนแอนกล่าวว่า “ฉันรู้สึกว่า มันเป็นอุกกาบาตของฉัน ฉันคิดว่าพระเจ้าประทานสิ่งนี้มาให้ หลังจากที่มันตกมาใส่ฉัน” แต่ความซวยของเธอก็คือ เธอกลับไม่ได้อุกกาบาตลูกนั้นไป 

(ภาพด้านล่างนี้คือร่องรอยที่อุกกาบาตชนวิทยุของเธอ)

ด้วยความหายากและเต็มไปด้วยแร่ที่มีค่ามากมาย อุกกาบาตจึงสามารถทำเงินมหาศาลให้กับผู้ครอบครองได้ แต่แอนกลับพลาดที่จะได้ครอบครองมันไป เพราะในช่วงวันเกิดเหตุนั้นเอง จูเลียส เคมปิส แม็คคินนีย์ ชาวนาท้องถิ่นที่กำลังขับรถอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ไมล์จากบ้านของแอน เป็นผู้เห็นเหตุการณ์อุกกาบาตตกมาจากท้องฟ้า เขารีบหันรถกลับไปเก็บเศษอุกกาบาตดังกล่าวและขายมันไปเกือบจะทันทีด้วยความช่วยเหลือจากทนาย จนสามารถซื้อรถซื้อบ้านหลังใหม่ได้

ไม่กี่เดือนต่อมา หลังจากที่ทางกองทัพนำอุกกาบาตไปวิเคราะห์ พวกเขาพร้อมที่จะคืนมันกลับให้เจ้าของ แต่ปัญหามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

แอน ไม่ใช่เจ้าของที่ดินดังกล่าว เบอร์ดี้ กาย คือชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าของที่ดินที่แท้จริง เขาบอกทางกองทัพว่า อุกกาบาตตกลงบนที่ดินของเขา ดังนั้น มันจึงต้องเป็นทรัพย์สินของเขา เบอร์ดี้ฟ้องแอน จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาล และในที่สุด แอนต้องจ่ายเงินจำนวน 500 เหรียญ (เป็นเงินปัจจุบันอยู่ราวๆ 4,000 เหรียญ หรือ 1.38 แสนบาท) เพื่อเป็นค่าอุกกาบาตถ้าหากเธอต้องการมัน

นั่นเป็นเวลาไม่นานก่อนที่สถาบันสมิธโซเนียน จะติดต่อมาขอซื้ออุกกาบาตจากเธอ หลังจากที่ทางสถาบันทราบเรื่องของชาวนาท้องถิ่นที่นำเศษอุกกาบาตมาขาย แต่แอนปฏิเสธข้อเสนอ เพื่อหวังว่าจะเกิดสงครามการแย่งประมูลอุกกาบาตลูกนี้ขึ้น

แต่โชคร้าย เพราะนั่นเป็นข้อเสนอเดียวที่เธอได้รับ จนกระทั่งผ่านไป 2 ปี เธอตัดสินใจบริจาคมันให้กับพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติอลาบามา โดยที่ไม่ได้รับเงินแม้แต่เซ็นต์เดียว

ตลอดเวลาหลังจากเกิดเรื่อง แอนต้องใช้เวลาต่อสู้แย่งชิงอุกกาบาตกับทางกองทัพและเจ้าของที่ดินเป็นเวลานานนับปี เธอกลายเป็นโรคประสาท ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น แถมความสัมพันธ์ของเธอกับสามีก็แย่ลงจนต้องหย่ากันในปี 1964 และหลังจากนั้นอีก 8 ปี เธอต้องเสียชีวิตในบ้านพักคนชราด้วยวัยเพียง 52 ปี

แอน ฮอดจ์ คือคนเดียวในประวัติศาสตร์ ที่ถูกอุกกาบาตชนจริงๆ แต่อุกกาบาตลูกนั้นก็เหมือนคำสาปที่ทำให้ชีวิตของเธอมีแต่แย่ลงไปเรื่อยๆ บางทีการที่เธอได้นอนหลับและตื่นมาโดยที่ไม่เจออะไรเลย อาจทำให้ชีวิตของเธอดีกว่านี้ก็เป็นได้