เรื่องลึกลับของโลก คนทะลุมิติ

คนทะลุมิติ ◕

         คดีคนหายจำนวนมากไม่ใช่แค่การหายไปเพราะคนอื่นหาตัวไม่พบ แต่เป็นการหายตัวไปขณะผู้คนรอบข้างละสายตาจากเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่นาที ซึ่งบริเวณนั้นก็ไม่มีสถานที่ให้แอบซ่อน เหมือนกับจู่ ๆ เขาละลายกลายเป็นอากาศธาตุไปเฉย ๆ

         

คดีพิศวงคนหายตัวไปเฉย ๆ ต่อหน้าพยานมีปรากฏอยู่ในบันทึกตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 17 อตีตกะลาสีเรือ โอเวน พาร์ฟิตต์ รอนแรมใช้ชีวิตกลางทะเลมานานหลายปี จนกระทั่งเขาป่วยเป็นอัมพาตช่วงล่างไม่สามาถเดินเหินได้ตามปรกติ เขาจึงต้องซมซานมาอาศัยอยู่กับพี่สาวในเมืองเชบตันมัลเล็ต ประเทศอังกฤษ

         

โอเวนมักนอนอยู่แต่บนเตียงเพราะเขาเคลื่อนไหวไปไหนไม่ได้ แต่บางวันเขาก็จะขอให้พี่สาวพยุงมานั่งหน้าบ้านเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ วันหนึ่งในเดือนมิถุนายนปี 1763 โอเวนขอให้พี่สาวพยุงเขามานั่งหน้าประตูบ้าน แต่วันนั้นอากาศหนาวเย็น โอเวนจึงสวมเสื้อคลุมตัวใหญ่เพื่อให้ร่างกายอบอุ่น

         

ซูซานนาฮ์ พี่สาวของโอเวน กลับเข้าบ้าน ปล่อยให้โอเวนนั่งชมนกชมไม้ตามลำพัง ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงนาของโจเซฟ จอร์จ เขากำลังเร่งกวาดฟางมากองรวมกันให้เสร็จเร็ว ๆ เพราะดูเหมือนอากาศคืนนี้จะมีพายุเข้า

         

เวลาประมาณ 19.00 น. เพื่อนบ้านคนหนึ่งข้ามถนนมาเพื่อช่วยซูซานนาฮ์พาโอเวนเข้าบ้านเหมือนกับที่เคยทำเป็นประจำ แต่พวกเขาก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าหน้าบ้านมีเพียงเสื้อคลุมวางอยู่แต่ไม่มีร่างของโอเวน ทั้งคู่รีบตามเพื่อนบ้านหลายคนให้ช่วยกันออกตามหาโอเวน

         

หลังจากออกตามหาทั่วทั้งหมู่บ้านก็ไม่มีใครพบร่องรอยของโอเวน เขาเป็นอัมพาตไม่สามารถเดินได้แล้วโอเวนหายตัวไปได้อย่างไร ไม่มีใครสามารถตอบคำถามนี้ได้ เพื่อนบ้านหลายคนยืนยันว่าเห็นโอเวนนั่งอยู่หน้าประตูบ้านทั้งวันและไม่มีสิ่งผิดปรกติหรือมีคนแปลกหน้าเฉียดเข้ามาแต่อย่างใด

☁ กลับไม่ถึงบ้าน

        

วันที่ 25 พฤศจิกายน 1809 เบนจามิน บาเทิร์ส ทูตชาวอังกฤษ เสร็จจากเดินทางไปราชการที่กรุงเวียนนา เขากำลังจะกลับลอนดอนโดยใช้เส้นทางผ่านกรุงเบอร์ลิน ระหว่างทางเบนจามินแวะเปลี่ยนม้าและกินอาหารค่ำที่เมืองแพร์ลิเบิร์ก

         

หลังจากได้ม้าชุดใหม่และกินอาหารค่ำเรียบร้อยแล้ว เบนจามินก็บอกสารถีให้ออกเดินทางต่อได้ จากนั้นเขาก็เดินไปขึ้นรถม้ารอ สารถีเดินตามมาติด ๆ ห่างกันเพียงไม่กี่นาที เขาเห็นประตูรถม้าเปิดอยู่แต่ข้างในไม่มีเบนจามิน
*เบนจามินไม่ใช่สามัญชนทั่ว ๆ ไป เขาเป็นทูตของประเทศอังกฤษ การหายตัวไปของเขาไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ เจ้าหน้าที่ชาวเยอรมันออกช่วยกันค้นบ้านทุกหลังที่อยู่ในบริเวณนั้นตลอดไปจนถึงริมฝั่งแม่น้ำสเต็บนิตซ์ พบแต่เพียงเสื้อคลุมตกอยู่ในห้องน้ำนอกอาคารหลังหนึ่ง (สมัยนั้นห้องน้ำสร้างนอกตัวอาคาร) และรองเท้าบู๊ตที่ชายป่า แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าของสองสิ่งนี้เป็นของเบนจามิน

*การค้นหาเบนจามินกินเวลายาวนานหลายเดือน ใช้กำลังคนจำนวนมากรวมไปถึงสุนัขดมกลิ่นแต่ก็ไม่มีใครพบเบาะแสใด ๆ เหมือนกับเขาหายตัวไปเฉย ๆ เพียงแค่ชั่วเวลาไม่กี่นาทีที่ห่างจากสารถีเพื่อเดินมาขึ้นรถม้า

☁ หายไปในสายหมอก
ปี 1813 ดิเดริซี (ไม่ปรากฏนามสกุล) ถูกจับในข้อหาปลอมตัวเป็นร้อยเอกฟริตซ์ อัลสเวนเจอร์ เจ้านายเก่าอดีตนายทหารกองทัพปรัสเซียที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อหวังครอบครองทรัพย์สมบัติ ดิเดริซีสวมเสื้อผ้าชุดทหารของเจ้านายและสวมวิกผมพยายามจะเบิกเงินจากธนาคาร

เขาต้องโทษจำคุก 10 ปี ระหว่างถูกจองจำเขาพยายามแหกคุกหลายครั้ง ต่อมาดิเดริซีจึงถูกตีตรวนป้องกันไม่ให้หลบหนีอีก วันหนึ่งขณะที่ผู้คุมพานักโทษมาออกกำลังกายที่สนามหญ้า ดิเดวิซีได้แอบสะเดาะตรวนแล้วเดินหายไปในสายหมอกต่อหน้าต่อตาเพื่อนนักโทษหลายสิบคน

นักประวัติศาสตร์หลายคนเคลือบแคลงสงสัยตั้งข้อสันนิษฐานว่าดิเดริซีไม่ได้หายตัวไปเฉย ๆ เขาเพียงแค่อาศัยม่านหมอกอำพรางตัวปีนข้ามกำแพงและกระโดดลงแม่น้ำวิสตูล่าที่อยู่ห่างไปไม่ไกลจึงทำให้ผู้คุมค้นหาไม่พบ

*★ .•°•.°°.•°•.★* *★ .•°•.°°.•°•.★* *★ .•°•.°★

☁ หายคาตา
ปี 1873 เจมส์ วอร์สัน ช่างทำรองเท้าแห่งเมืองเลมิงตันสปา ประเทศอังกฤษ ท้าพนันกับเพื่อนว่าเขาสามารถวิ่งมาราธอนไปยังเมืองโคเวนทรี เป็นระยะทาง 16 ไมล์ ได้โดยไม่ต้องหยุดพัก เพื่อน ๆ รับคำท้า แต่เพื่อเป็นหลักประกันว่าเจมส์จะไม่เล่นตุกติก พวกเขาจึงขี่ม้าตามห่าง ๆ ตลอดเส้นทางเจมส์วิ่ง 3-4 ไมล์แรกโดยไม่ส่อแววว่าจะเหน็ดเหนื่อย ดูเหมือนว่าเขาอาจวิ่งถึงจุดหมายได้โดยไม่ต้องหยุดพักจริง ๆ แต่ทันใดนั้นเขาก็สะดุดอะไรบางอย่างบนพื้น ร่างของเจมส์ลอยล้มคะมำไปข้างหน้าแต่เขาไม่ล้มกระแทกพื้น เพราะร่างเขาหายไปกลางอากาศก่อนที่จะร่วงสู่พื้นต่อหน้าต่อตาเพื่อน ๆ ที่ขี่ม้าตามมาข้างหลัง

วันที่ 16 กันยายน 1890 หลุยส์ เลอ ปริ้นซ์ นักประดิษฐ์ชาวฝรั่งเศส ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นบุคคลแรกของโลกที่สามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้สำเร็จ กลับจากเยี่ยมพี่ชายที่เมืองดีฌง หลุยส์ขึ้นรถไฟและเก็บตัวอยู่คนเดียวในห้องตลอดการเดินทาง จนกระทั่งรถไฟเดินทางมาถึงสถานีกรุงปารีส

พนักงานรถไฟเคาะประตูเรียกเพราะผู้โดยสารลงจากรถไฟหมดแล้วแต่หลุยส์ยังไม่ออกจากห้อง เขาอาจจะเผลอหลับไป แต่ไม่มีเสียงตอบรับ พนักงานรถไฟเปิดประตูเข้าไปดูก็พบแต่ห้องว่างเปล่า หลุยส์หายไปพร้อมกับกระเป๋าเดินทางทั้งๆที่ไม่มีใครเห็นเขาออกมาจากห้องตั้งแต่รถไฟออกจากสถานีดีฌง หน้าต่างก็ปิดใส่กลอนจากด้านในและรถไฟวิ่งตรงจากดีฌงสู่ปารีส ไม่ได้แวะสถานีใดระหว่างทาง

☁ เพียงละสายตา
แม้ในปัจจุบันการหายตัวไปอย่างปริศนาเกิดขึ้นหลายครั้ง อย่างเช่นกรณีของไบรอัน เชฟเฟอร์ นักศึกษาแพทย์มหาวิทยาลัยโอไฮโอ ออกไปเที่ยวบาร์ Ugly Tuna Saloona เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2006 แล้วหายตัวไปเฉย ๆ ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเขาเดินเข้าไปในบาร์ แต่ไม่มีภาพที่เขาเดินออกจากบาร์

พยานคนสุดท้ายที่เห็นไบรอันเล่าว่าเห็นเขาคุยกับหญิงสาว 2 คนในบาร์ราวเวลา 02.00 น. หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเขาอีก แม้แต่กล้องวงจรปิดก็ไม่มีภาพของเขาเหมือนกับว่าเขาหายตัวไปเฉย ๆ

วันที่ 18 กรกฎาคม 2007 บาบาร่า โบลิก วัย 55 ปี ออกไปปีนเขาเล่นกับจิม ราเมเกอร์ บาบาร่ารั้งท้ายจิมราว 6-9 เมตร เมื่อจิมปีนเขาไปถึงจุดที่มีทิวทัศน์สวยงามเขาก็หยุดพัก แต่เมื่อมองกลับลงมาไม่พบบาบาร่า จิมกลับลงมาแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ระดมออกค้นหาแต่ไม่พบร่องรอยใด ๆ

(บาบาร่า โบลิก)

กรณีที่น่าขนลุกมากที่สุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2008 แบรนดอน สวอนสัน นักศึกษาวัย 19 ปี เดินทางกลับไปเยี่ยมครอบครัวในเมืองมาร์แชล รัฐมินนิโซตา แบรนดอนประสบอุบัติเหตุระหว่างเดินทาง รถเสียหลักพุ่งลงคูข้างทาง เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถติดอยู่ในคูเดินทางต่อไม่ได้

แบรนดอนโทร.หาพ่อเมื่อเวลา 01.54 น. บอกให้มารับตรงที่เกิดเหตุ พ่อเขาขับรถมาตามเส้นทางที่แบรนดอนบอกแต่เขาไม่พบจึงโทรศัพท์หาแบรนดอนให้อธิบายรายละเอียดอีกครั้ง ระหว่างที่แบรนกอนกำลังอธิบายอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็สบถออกมาคำหนึ่งแล้วสัญญาณโทรศัพท์ก็ขาดหายไป

พ่อของแบรนดอนพยายามโทร.กลับอีกหลายครั้งแต่เขาไม่รับสาย พ่อของเขาโทร.แจ้งตำรวจให้ช่วยออกตามหา ในที่สุดก็พบรถของแบรนดอนใกล้กับเมืองลินด์ซึ่งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองมาร์แชล แต่ไม่มีร่องรอยของแบรนดอนอยู่ในบริเวณนั้น

ผู้เคราะห์ร้ายเหล่านี้ล้วนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยขณะที่มีบุคคลอื่นอยู่ใกล้ ๆ ตัว พวกเขาหายตัวไปโดยกระทันหันราวกับว่าหลุดเข้าไปสู่ประตูข้ามมิติอันตรธานหายไปจากโลกอย่างไร้ร่องรอย....(จบ)..✎

*★ .•°•.°°.•°•.★* *★ .•°•.°°.•°•.★* *★ .•°•.°★