เมื่อจำกัดผู้สืบทอดบัลลังก์สายอื่นไป คาลิกูลาก็ได้มีทายาทจากคาสโซเนียสมใจในที่สุด แต่กลับทรงได้พระธิดาแทน แน่นอนว่าไม่มีใครเชื่อว่าพระธิดาเป็นทายาทของคาลิกูลา เพราะคาสโซเนียส่ำส่อนกับชายอื่นไปทั่ว แต่คาลิกูลากลับหลงรักลูกสาวคนนี้มาก...อาจเพราะพระธิดามีพระพักตร์รวมถึงสีพระเกศาประพิมพ์ประพายเหมือนเสด็จอา...เดียซิร่า ไม่มีผิดเพี้ยน ทำให้คาลิกูลาเข้าใจว่าพระขนิษฐากลับชาติมาเกิดเป็นเด็กคนนี้ ไม่ว่าจะเป็นสายเลือดของพระองค์หรือของชายอื่น คาลิกูลาก็ยอมรับเด็กน้อยเป็นลูกอย่างหมดหัวใจ พระราชทานนามว่า จูเลีย เดียซิร่า ตามชื่ออาสาวผู้ล่วงลับ
ถึงแม้จะได้เป็นพ่อคนแล้ว แต่คาลิกูลากลับไม่ลดความโหดเหี้ยมลงเลย ต่อหน้าเดียซิร่าน้อย พระองค์เป็นพระราชบิดาที่ทรงพระอารมณ์ดี ร่าเริงหยอกล้อกับเธอเสมอ ครั้นลับหลังเธอ ทั้งพ่อและแม่ก็ยังคงสนุกสนานกับมหกรรมบันเทิงนองเลือดและคาวโลกีย์ต่อไปไม่มีวันจบ
การมัวเมาอยู่กับงานเลี้ยงทั้งวันทั้งคืนทำให้เงินในท้องพระคลังหร่อยหรอลงไปจนน่าใจหาย แทนที่คาลิกูลาจะรู้จักหยุด พระองค์กลับหาวิธีหาเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นค่าเข้าชมการประลองต่อสู้และภาษีให้สูงขึ้น ซึ่งนอกจากจะเบียดเบียนคนเป็นแล้ว ยังเบียดเบียนคนตายด้วยการขึ้นภาษีมรดกโดยเก็บเงินถึง 2 ใน 3 ของมรดกผู้ตายอีกต่างหาก
เท่านั้นยังไม่พอ คาลิกูลายังขึ้นภาษีโสเภณีมากขึ้น จนเหล่านางกลางเมืองแทบไม่มีจะกิน แต่ไม่ว่าจะขึ้นภาษีเก็บเงินเข้ากระเป๋ามากแค่ไหน เงินก็ยังไม่พอสำหรับการจัดงานเลี้ยงสำหรับคาลิกูลาอยู่ดี...และแล้วพระองค์ก็ทรงคิดไอเดียบรรเจิดขึ้นมาได้! นั้นคือ ทรงมีพระบัญชาให้สร้างเรือสำราญขนาดใหญ่ขึ้นมาไว้ในพระราชวัง ซึ่งทรงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรือสำราญของพระนางคลีโอพัตราแห่งอียิปต์ที่ใช้รับรองขุนพลมาร์ก แอนโทนีแห่งโรมัน ภายในเรือแบ่งท้องเรือออกมาเป็น 4 ชั้น ไม่มีห้องหับส่วนตัว คล้ายฮาเร็มของสุลต่าน มีการประดับตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หรูหรา ทรงตั้งชื่อว่า ‘เรือมนุษย์’
และมีพระบัญชาให้ไปจับภรรยาหม้ายของขุนนางที่ยังสาวยังสวยมาไว้บนเรือลำนี้ เพื่อเปิดเป็นสำนักซ่องขนาดใหญ่ที่สุดในโรม! คาลิกูลาเปิดซ่องเรือลำนี้ให้ผู้ชายกลัดมันทั่วทั้งกรุงโรมมาใช้บริการ โดยการโฆษณาเชิญชวนว่าหญิงบริการเหล่านี้เป็นสตรีชั้นสูงที่ยังสวย สาว และสะอาด ไม่ขี้โรคเหมือนนางกลางเมืองชั้นต่ำในราคาที่ถูกกว่า...วิบากกรรมจึงตกกับเหล่าสตรีหม้ายที่ล้วนมีชาติกำเนิดเป็นชนชั้นสูงหรือธิดาขุนนาง เป็นกุลสตรีที่หวังว่าแต่งงานไปแล้วชีวิตจะมั่นคง กลับมีปั้นปลายชีวิตต้องถูกบังคับกลายมาเป็นนางกลางเมืองที่ต้องรองรับความหื่นกระหายของบุรุษมากหน้าหลายตาอย่างไม่อาจเหน็ดเหนื่อยและไม่ได้ค่าตัวแม้แต่สักแดง เพราะคาลิกูลาเก็บเข้ากระเป๋าหมด กิจการวิตถารเหล่านี้ทำเงินเป็นกอบเป็นกำให้คาลิกูลาเป็นอย่างมาก เขาถึงขนาดตั้งให้คาสโซเนียเป็นโสเภณีที่ราคาแพงที่สุดบนเรือมนุษย์ลำนี้ด้วย
จักพรรดิคาลิกูลาจึงกลายเป็นจึงทรราชเต็มขั้นโดยสมบูรณ์! เป็นจักรพรรดิที่มัวเมาฉาวโฉ่ยิ่งกว่าอดีตจักรพรรดิไทเบอรีอัส พระราชบิดาเลี้ยงเสียอีก! หมดสิ้นภาพลักษณ์ของมหาราชผู้เป็นบุตรของวีรบุรุษสงครามที่เหล่าประชาเคยยกย่อง คาลิกูลาทระนงตนว่าไม่มีใครสามารถห้ามเขาได้แล้ว มีผลให้เหล่าขุนนางที่ปิดปากเงียบทนเห็นการกระทำของจักพรรดิมานาน เริ่มเกิดความรู้สึกอยู่เฉยไม่ไหว หากปล่อยให้เป็นอย่างนี้ต่อไป อาณาจักรโรมันอันยิ่งใหญ่ต้องถึงคราวดับสิ้นแน่!
เพียงคาลิกูลาย่างก้าวพระบาทขึ้นบันไดโรงละคร พระองค์ก็ถูกแม่ทัพทหารคนหนึ่งที่ดักรออยู่ใช้ดาบฟันสะพายแล่งเข้าจนพระวรกายนอนจมกองเลือดกับพื้นแต่ยังทรงมีพระชนม์ชีพอยู่ จึงทรงได้ทอดพระเนตรเห็นมเหสีคาสโซเนียโดนฟันเข้าที่ท้องจนดับสิ้นชีวิตอย่างน่าอนาถ ทรงร้องเรียกขอความช่วยเหลือ แต่เหล่าทหารรักษาพระองค์ได้เพียงแต่ยืนมองอย่างเฉยเมย
...และที่น่าสะเทือนพระทัยที่สุดก็คือ การได้ทอดพระเนตรเห็นเจ้าหญิงเดียซิร่าน้อยวัยเพียง 2 ชันษา ถูกทหารจับร่างฟาดเข้ากับกำแพงจนศีรษะแตกมันสมองแหลกกระจายเสียชีวิตอย่างน่าสงสาร แม่ทัพมือสังหารรวมทั้งเหล่าขุนนางที่เอือมระอาในคาลิกูลาต่างเข้ามารุมซ้ำด้วยดาบแทงไปตามพระวรกายจนชุ่มพระโลหิตจนกระทั่งสิ้นพระชนม์ในที่สุด...ซ้ำรอยโศกนาฏกรรมมรณะของจูเลียส ซีซาร์ ไม่ผิดเพี้ยน จบสิ้นชีวิตของจักรพรรดิหนุ่มผู้น่าจะมีอนาคตที่ยาวไกลกว่านี้ด้วยวัยเพียง 28 ชันษา
จักพรรดิคาลิกูลาถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ถึงวีรกรรมความโหดเหี้ยมที่อาจจะเทียบได้น้อยกว่าจักรพรรดิเนโรผู้เป็นพระนัดดา แต่พระองค์ก็ถือได้ว่าเป็นจักรพรรดิที่มีสีสันของชีวิตครบทุกรสชาติ ประวัติศาสตร์ป้ายสีให้พระองค์กลายเป็นทรราชในสายตาประชาชน โดยไม่ได้มองย้อนกลับไปดูสาเหตุของความบ้าของคาลิกูลานั้นไม่ได้เกิดมาจากสันดาน หากแต่สะสมมาจากความขลาดกลัวที่ถูกกดกันเอาชีวิตอยู่ตลอดเวลา โชคยังดีที่พระองค์ยังได้รับกำลังใจจากเดียซิร่า
...เห็นได้จากการตอนที่คาลิกูลาปฏิภาณต่อในตอนขึ้นครองราชย์ได้ว่า จะทรงเป็นจักพรรดิที่ดีและแตกต่างจากพระราชบิดาเลี้ยงผู้ฉาวโฉ่ให้ได้ ทั้งนี้เพราะพระองค์มีเดียซิร่าผู้มีจิตใจดีงามคอยเตือนสติอยู่เสมอ ดั่งที่ว่า ชีวิตของบุรุษจะดีจะร้ายนั้น ขึ้นอยู่กับสตรีคู่ใจส่งเสริมให้ไปในทางไหนในช่วงห้วงลมหายสุดท้ายของชีวิตนั้น เดียซิร่าผู้ปรารถนาและจงรักภักดีต่อคาลิกูลาอย่างหมดหัวใจ เธอคงหวังว่าความตายของเธอนั้นจะทำให้คาลิกูลานั้นสำนึกได้ถึงชีวิตของมนุษย์นั้นช่างแสนสั้น ควรที่รีบประกอบคุณงามความดีเป็นประโยชน์ต่อสังคมเสีย นางคงหวังว่าพี่ชายจะกลายเป็นจักรพรรดิมหาราชทีดีสมกับที่เคยปฏิภาณต่อหน้าประชาชนและที่เคยสัญญาไว้กับนางได้
กุหลาบเลือด..
เพลงประจำตัวของ คาลิกูล่า
เดียซิร่าจะรู้ไหมหนอ? ว่าการมรณกรรมของเธอนั้น จะทำให้ชายอันเป็นที่รักเสียสติฟั่นเฟือนและก่อความทุกข์เข็ญให้กับผู้อื่นมากมายถึงเพียงนี้?
หากเดียซิร่ามีชีวิตยืนยาวมากกว่านี้ เธออาจจะสามารถฉุดรั้งคาลิกูลาไม่ให้เลยเถิดไปในทางเลวร้ายจนต้องจบชีวิตอย่างน่าอดสู เธออาจจะทำให้คาลิกูลากลายเป็นมหาราชที่ดีที่ประวัติศาสตร์จะได้จารึกพระเกียรติคุณงามความดีของพระองค์เอาไว้ ไม่ต้องกลายเป็นทรราชที่มีชื่อเสียงอันฉาวโฉ่ให้ผู้คนสาปแช่งมาจนถึงปัจจุบัน!....(จบ)..✎