กีฬาสุดวิปริต สุดเหี้ยม! กีฬา “โยนจิ้งจอก” ในอดีต ที่คุณอ่านแล้วจะต้องน้ำตาซึมน้ำตาไหล

กีฬาสุดวิปริต สุดเหี้ยม! กีฬา “โยนจิ้งจอก” ในอดีต ที่คุณอ่านแล้วจะต้องน้ำตาซึมน้ำตาไหล

นี่คงจะเป็นกีฬาบ้าบอวิปริตรวิปลาสที่ทารุณกรรมทรมานสัตว์น่าดูเลยนะครับลองอ่านดูนะครับว่ากีฬานี้มันเหมาะสำหรับคนหรือว่าอะไรกันแน่กีฬา “โยนจิ้งจอก” ในอดีต สมัยก่อนคนเรามองสัตว์ต่างๆเป็นเครื่องบันเทิงเป็นเครื่องระบายอารมณ์เพราะฉะนั้นมันถึงมีกีฬาแบบนี้เกิดขึ้นมาไม่ว่ากษัตริย์ในสมัยโบราณก็เป็นไปกับเขาด้วย เนื้อหาตามบทความนี้ลองอ่านดูนะครับ

ในสมัยอดีต สามัญสำนึกในเรื่องมนุษยธรรมของคนเรายังไม่ได้ถูกขัดเกลาได้เหมือนสมัยนี้ ซึ่งถ้าพูดถึงการทารุณกรรมสัตว์ จะถือเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปมาก โดยเฉพาะในสังคมยุโรปชั้นสูง มีการละเล่นเกี่ยวกับสัตว์หลายๆ อย่าง เพื่อตอบสนองความสนุกของตัวเอง โดยไม่สนใจว่าสัตว์เหล่านั้นจะเป็นอย่างไร

การโยนจิ้งจอก (Fox Tossing) ถือเป็นเกมการละเล่นที่นิยมอย่างมากในยุโรป ช่วงศตวรรษที่ 17-18 โดยเฉพาะเหล่าชนชั้นสูงในยุโรป อย่างเยอรมนี

กฏของเกมการเล่นก็ไม่มีอะไรยาก เพียงแค่จับคู่ทีมละ 2 คนกันมาในสนาม แต่ละคนถือผ้ายืดกันคนละฝั่ง และจากนั้นผู้คุมจะปล่อยจิ้งจอกให้เข้ามาในสนาม เมื่อไหร่ที่จิ้งจอกเดินเข้ามาระหว่างผ้า ก็ให้ทั้งคู่ดึงผ้าสุดแรงเกิด เพื่อให้จิ้งจอกลอยไปในกลางอากาศให้สูงที่สุด

สำหรับผู้เล่นที่มีประสบการณ์ สามารถทำให้จิ้งจอกลอยสูงจากพื้นได้ถึง 24 ฟุต เลยทีเดียว แน่นอนว่า หลังจากมันตกลงมาด้วยความสูงขนาดนั้น ก็ทำให้พวกมันขาหักและบางตัวก็ตายไปเลยก็มี นอกจากสุนัขจิ้งจอกแล้ว สัตว์อื่นๆ ก็ถูกปล่อยให้มาเป็นเหยื่อการละเล่นอันโหดร้ายนี้ด้วยเช่นกัน

มีครั้งหนึ่ง กษัตริย์ออกัสตุสที่ 2 ของโปแลนด์ ได้เปิดการแข่งขันอย่างเป็นทางการ ซึ่งในวันนั้นมีจิ้งจอก 647 ตัว กระต่าย 533 ตัว แบดเจอร์ 34 ตัว และแมวป่า 21 ตัว ทั้งหมดถูกโยนขึ้นไปและตกลงมาจนเสียชีวิต

👉Milk bath oil น้ำนมแช่ผิวสปา น้ำนมแช่ผิว น้ำนมแช่ตัว น้ำนม กลิ่นหอมอโรม่ามีบให้เลือก 6 กลิ่นหอมๆชื่นใจ

โชคดีที่ในสมัยนี้ มนุษย์เราเริ่มตระหนักได้ถึงมนุษยธรรมต่อชีวิตเพื่อนร่วมโลกมากขึ้น ซึ่งหวังว่าในอนาคต จิตใจมนุษย์อย่างเราจะไม่ตกต่ำกลับไปเป็นแบบนั้นอีก