พบซากม้าในลักษณะที่ยังใส่บังเหียนและอานที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองปอมเปอี ทีมนักโบราณคดีต่างยกให้เป็น "การค้นพบครั้งสำคัญที่หาได้ยากยิ่ง"
ซากม้าดังกล่าวอยู่ในลักษณะสวมอุปกรณ์เตรียมพร้อมออกเดินทาง ซึ่งนักโบราณคดีเชื่อว่ามันน่าจะถูกนำไปช่วยขนส่งชาวปอมเปอีที่กำลังหนีตายตอนที่ภูเขาไฟวิสุเวียสเกิดการปะทุครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 79 และพ่นเถ้าถ่านปกคลุมเมือง
สำหรับจุดที่พบซากม้า อยู่ในหมู่บ้าน Villa of the Mysteries ซึ่งเป็นหมู่บ้านของเหล่านายทหารโรมันหรือทหารชนชั้นปกครองที่มั่งคั่ง หลักฐานที่พบบ่งชี้ว่าม้าได้รับการดูแลอย่างดี ที่ซากบังเหียนและอานมีการตกแต่งด้วยทองแดงและไม้
นายมัสซิโม โอซันนา ผู้อำนวยการอุทยานโบราณคดีปอมเปอี ระบุว่า การค้นพบครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นระหว่างการขุดค้นบริเวณคอกม้าของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองปอมเปอีพร้อมระบุว่า ม้าเหล่านี้ต้องพบกับจุดจบที่ "โหดร้ายและน่ากลัว" เพราะคาดว่าพวกมันคงหายใจไม่ออกตายจากเถ้าถ่านหรือไอน้ำร้อนระอุจากกลุ่มเถ้าภูเขาไฟวิสุเวียส
นายมัสซิโม โอซันนา ผู้อำนวยการอุทยานโบราณคดีปอมเปอี ระบุว่า การค้นพบครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นระหว่างการขุดค้นบริเวณคอกม้าของหมู่บ้าน ซึ่งอยู่ทางเหนือของเมืองปอมเปอีพร้อมระบุว่า ม้าเหล่านี้ต้องพบกับจุดจบที่ "โหดร้ายและน่ากลัว" เพราะคาดว่าพวกมันคงหายใจไม่ออกตายจากเถ้าถ่านหรือไอน้ำร้อนระอุจากกลุ่มเถ้าภูเขาไฟวิสุเวียส
นายโอซันนาบอกว่า จากนี้ไปพื้นที่บริเวณหมู่บ้านนี้ทั้งหมดจะถูกขุดค้นและเปิดให้สาธารณชนเข้าชม ซึ่งก่อนการค้นพบครั้งล่าสุดนี้ ทีมนักโบราณคดีได้ขุดค้นพบเครื่องบีบน้ำองุ่นสำหรับทำไวน์ เตาอบ และภาพวาดบนผนังปูนปลาสเตอร์เปียกที่งดงามจำนวนมาก
เมืองปอมเปอี ตั้งอยู่ใกล้กับเมืองเนเปิลส์ ทางตอนใต้ของอิตาลี ถือกำเนิดขึ้นเมื่อราว 700 ปีก่อนคริสตกาล ก่อนจะถูกผนวกเข้ากับอาณาจักรโรมันในช่วง 80 ปีก่อนคริสตกาล...
เชื่อกันว่าภัยพิบัติครั้งนั้นได้คร่าชีวิตผู้คนไปนับหมื่นในปี 1997 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่สหประชาชาติ (ยูเนสโก)ได้ขึ้นทะเบียนให้ซากเมืองโบราณปอมเปอีเป็นมรดกโลก ซึ่งแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางไปเยี่ยมชมนับล้านคน