ผู้พิชิตบัลแกเรีย! จักรพรรดิเบซิลที่ 2 แห่งจักรวรรดิไบแซนไทน์ ผู้นิยมควักลูกตาเชลยเพื่อข่มขวัญข้าศึก!
ค้นหา

Custom Search
หลังจากสิ้นสุดยุคทองในรัชสมัยของจักรพรรดิจัสติเนียน จักรวรรดิไบแซนไทน์ที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ก็ค่อยๆ สูญเสียดินแดนจากการรุกรานโดยข้าศึกจากรอบทิศทาง โดยเฉพาะพวกอาหรับ ที่ได้บุกยึดดินแดนแถบซีเรียและอียิปต์ จนทำให้ไบแซนไทน์อ่อนแอลง อีกทั้งยังมีความวุ่นวายจากการเมืองภายในเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้จักรวรรดิต้องพบเจอกับปัญหาตลอดเวลา
ทว่า ในปี 867-1025 คือช่วงเวลาสงบสุขของจักรวรรดิไบแซนไทน์ เพราะมีจักรพรรดิสองพระองค์ที่ก้าวขึ้นมาปกครองแผ่นดิน ได้แก่ จักรพรรดิ เบซิลที่ 1 และ เบซิลที่ 2
โดยเฉพาะจักรพรรดิเบซิลที่ 2 ได้นำความมั่นคงและมั่งคั่งกลับมาสู่จักรวรรดิอีกครั้ง
จักรพรรดิเบซิลที่ 2 มีฉายาที่น่าสะพรึงว่า จักรพรรดิเบซิล ผู้พิฆาตบัลแกเรีย (Boulgaroktonos) โดยในรัชสมัยของจักรพรรดิเบซิลที่หนึ่ง พระองค์ดำเนินนโยบายเป็นพันธมิตรกับอาณาจักรบัลแกเรียด้วยนโยบายทางศาสนา แต่กลับกลายเป็นสร้างปัญหาจนเกิดเป็นสงครามระหว่างสองฝ่าย ในรัชสมัยของจักรพรรดิเบซิลที่ 2 จึงทำสงครามปราบปรามพวกบัลแกเรียได้สำเร็จ และยึดดินแดนแถบ เซอร์เบีย โครเอเชียได้สำเร็จ
โดยเฉพาะพวกบัลแกเรีย จักรพรรดิเบซิลที่ 2 ได้สังหารทหารและนักโทษรวมทั้งหมด 30,000 คน ให้ตายอย่างทุกข์ทรมาน กล่าวกันว่าพระองค์สั่งให้ทหารใช้มีดสั้นควักลูกตาทหารและนักโทษเหล่านั้นให้ตายไปเองอย่างช้าๆ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็กหรือผู้หญิง เล่าลือกันว่าพระองค์ทรงควักลูกตาทั้งสองข้างของเชลยศึกทุกคน และคนที่ 100 ในแต่ละรอบ พระองค์จะทรงเหลือดวงตาให้ข้างหนึ่ง เพื่อพาเพื่อนเชลยที่เหลือกลับไปหากษัตริย์ของพวกเขา เพื่อแสดงคำเตือนว่าหากใครคิดต่อต้านพระองค์จะต้องพบกับชะตากรรมที่แสนโหดร้ายเพียงใด
หลังจากสิ้นสุดยุคสมัยของจักรพรรดิเบซิลที่ 2 จักรวรรดิไบแซนไทน์ก็ค่อยๆ อ่อนแอลงจากการแก่งแย่งชิงดีกันเอง และการรุกรานจากข้าศึก จนนำมาสู่การล่มสลายในที่สุด
เรียบเรียง : S