ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ฟิดิปปิเดซ วีรบุรุษแห่งทุ่งมาราธอน

ฟิดิปปิเดซ วีรบุรุษแห่งทุ่งมาราธอน
 
ค้นหา
Custom Search
กระแสการออกกำลังกายด้วยการวิ่งมาราธอนกำลังมาแรง และเป็นเทรนด์ใหม่สำหรับผู้รักสุขภาพ วันนี้คอลัมน์ไทยรัฐซันเดย์สเปเชียลโดยทีมงานนิตยสารต่วย’ตูนจึงขอพาแฟนานุแฟนไปพบกับตำนานที่มาของการวิ่ง “มาราธอน” ซึ่งเกิดจากเหตุการณ์ในสงครามสมัยโบราณของโลกตะวันตก

เรื่องราวในอดีตนั้นมีอยู่ว่า สมัยหนึ่งหลังจากกษัตริย์พิซิสตราตุสผู้ปกครองเอเธนส์ถึงแก่กรรมแล้ว ลูกชายสองคนของเขา ชื่อฮิปปาปิอาส และฮิปปาชัส ได้ครองเอเธนส์สืบมา
จนกระทั่งฮิปปาชัสถูกลอบฆ่าโดยน้ำมือของศัตรู ฮิปปาปิอาสจึงปกครองอย่างโหดร้ายทารุณ จนประชาชนทนไม่ไหว ช่วยกันไล่เขาออกจากกรุงเอเธนส์ไป

ฮิปปาปิอาสได้ไปขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรเปอร์เซียให้มาช่วยชิงอำนาจคืน ซึ่งตอนนั้นเปอร์เซียกำลังมีอำนาจมาก มีกษัตริย์ปกครองนามว่า “ดาริอุสมหาราช”
พระเจ้าดาริอุสเริ่มก่อสงครามขึ้นโดยได้ส่งสาส์นไปยังแคว้นต่างๆของกรีก สั่งให้ส่งน้ำและดินมาเป็นบรรณาการ ถ้าแคว้นกรีกใดยอมทำเช่นนั้นก็หมายถึงว่า ยอมยกดินแดนให้แก่เปอร์เซียนั่นเอง บางแคว้นก็ยอมปฏิบัติ บางแคว้นก็ปฏิเสธ
ฟิดิปปิเดซวิ่งนำข่าวชัยชนะมาแจ้งต่อชาวเมืองกรีก.

สำหรับชาวเอเธนส์แล้ว ได้จัดการจับทูตของเปอร์เซียโยนลงคูน้ำซึ่งเคยใช้เป็นที่โยนนักโทษ ส่วนชาวสปาร์ตาก็จับทูตเปอร์เซียขึ้นไปบนกำแพงเมือง แล้วโยนลงไปข้างล่าง บอกว่า
“เจ้าจงเอาดินและน้ำที่นั่นไปฝากนายของเจ้า”
พระเจ้าดาริอุสพิโรธมาก ประกาศสงครามใหญ่ทันที ระดมทัพเรือประกอบกำลังพลถึง 150,000 คน ยกเข้าตีอาณาจักรกรีกทันที ทัพเรือมาขึ้นฝั่งประเทศกรีก ตั้งค่ายใหญ่อยู่บริเวณทุ่งราบมาราธอนซึ่งห่างจากกรุงเอเธนส์ราว 22 ไมล์

ชาวเอเธนส์มิได้รอช้า รีบระดมชายฉกรรจ์ได้ประมาณหนึ่งหมื่นคน จัดเป็นกองทัพ มีแม่ทัพผลัดกันบัญชาการวันละ 1 คน และเมืองพลาแทอาอันเป็นเมืองเล็กๆได้ส่งอาสาสมัครมาช่วย 1,000 คน

แม่ทัพกรีกที่เข้มแข็งสามารถที่สุดคือ มิลเทียดีส เขาตั้งใจจะโจมตีทัพเปอร์เซียทันที เมื่อถึงคราวเขาได้เป็นผู้บัญชาการทัพ ในวันที่ 12 สิงหาคม ก่อนคริสตกาล 490 ปี เขาสั่งทหารกรีกขยายแนวเข้าทำลายกำลังข้าศึก
ที่ทุ่งราบ

พระเจ้าดาริอุสมหาราช.
เมื่อสามารถเจาะทะลวงแนวของข้าศึกได้ ก็เข้าโจมตีบดขยี้จนข้าศึกไม่เป็นขบวน ตั้งตัวไม่ติด ต้องถอยกลับกองเรือกันเป็นอลหม่าน
ข่าวการมีชัยของทัพกรีกได้ถูกส่งไปยังกรุงเอเธนส์โดยทหารผู้หนึ่งที่มีชื่อว่า ฟิดิปปิเดซ แม้จะบาดเจ็บแต่ก็สามารถวิ่งจากสนามรบถึงเอเธนส์เป็นระยะทาง 42.195 กิโลเมตรได้สำเร็จ ทหารผู้นั้นวิ่งไปถึงกลางตลาด บอกกับฝูงชนที่กำลังชุมนุมกันว่า

“จงยินดีเถิด จงยินดีเถิด พวกเราชนะแล้ว!”
พอพูดจบก็ล้มลงขาดใจตายทันที แต่ข่าวที่เขาส่งมานี้ก็ก่อความปลื้มปีติแก่ชาวเอเธนส์โดยทั่วหน้า
ฟิดิปปิเดซขาดใจตายหลังจากแจ้งข่าวชัยชนะ.

ยกเว้นก็แต่คนขายชาติ คนพวกนี้ได้ลอบขึ้นไปบนภูเขาใกล้กรุงเอเธนส์แล้วส่งสัญญาณโดยอาศัยโล่ที่ขัดจนเป็นเงาสะท้อนแสงพระอาทิตย์ ให้ทัพเปอร์เซียมุ่งเข้าตีกรุงเอเธนส์ก่อนที่มิลเทียดีสจะกลับกรุง 
แต่เคราะห์ดีที่มิลเทียดีสได้เห็นสัญญาณเสียก่อน จึงเดาเรื่องได้ตลอดและรีบยกทัพกลับ 

เมื่อทัพเรือฝ่ายเปอร์เซียจะเข้าโจมตีกรุงเอเธนส์ ก็ต้องเผชิญหน้ากับทัพของมิลเทียดีส ซึ่งพวกเปอร์เซียเคยเกรงกลัวมาก่อน ดังนั้น ทัพฝ่ายเปอร์เซียจึงรีบถอยกรูดไม่เป็นอันสู้รบ พอได้ทีก็ลงเรือออกทะเลอีเจียน กลับอาณาจักรของตน

การรบที่ทุ่งมาราธอนแสดงถึงฝีมืออันยอดเยี่ยมของกองทัพกรีก แม้จะมีกำลังพลน้อยกว่าเปอร์เซียประมาณ 15 เท่า ก็สามารถกำชัยชนะไว้ได้ โดยเสียทหารไปเพียง 192 คนเท่านั้น เรียกได้ว่าเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบ และชนะอย่างเด็ดขาดมากที่สุด

ชาวกรีกเชื่อว่าชัยชนะงดงามคราวนี้ เป็นผลเนื่องจากความช่วยเหลือของเทซีอุส อดีตวีรบุรุษของกรีกที่ได้รับการยกย่องประดุจเทพเจ้า เป็นเหตุให้ทัพเปอร์เซียแตกพ่ายเสียหายอย่างหนัก
มิลเทียดีส.
ซึ่งแน่นอนว่า พลเดินเท้าอย่างฟิดิปปิเดซก็นับถือเทพเทซีอุส และเทพเมอร์คิวรี เทพแห่งการเดินทางสื่อสาร แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการสู้รบอย่างหนักหน่วงในสมรภูมิ ประกอบกับอุปกรณ์เครื่องรบ ไม่ว่าจะเป็นเกราะ โล่ อาวุธ สิ่งเหล่านี้ได้ทำให้การวิ่งทางไกลอย่างต่อเนื่องกลายเป็นการใช้ร่างกายกำลังจนเกิดสภาพหายใจไม่ทันและหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นผลให้เสียชีวิตในที่สุด

ฟิดิปปิเดซได้รับการจารึกชื่อบนวิหารแห่งกรุงเอเธนส์ ดุจเทพเจ้าองค์หนึ่ง นับได้ว่าเป็นทหารพลเดินเท้าเพียงคนเดียวที่ได้รับเกียรติสูงสุดเช่นนี้

หลังจากได้รับชัยชนะ มิลเทียดีสได้รับความนิยมจากประชาชนมาก จนสามารถขออะไรเป็นได้ทุกอย่าง เขาได้ขอเรือเจ็ดสิบลำพร้อมด้วยทหารจำนวนหนึ่ง ยกไปตีเกาะพารอสที่เคยให้ความช่วยเหลือแก่กองทัพเปอร์เซียในการมาตีกรีก เพื่อเป็นการล้างแค้นแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ
สงครามระหว่างกรีกกับเปอร์เซีย.
กองทัพของเขาเสียทีถูกล้อม ในที่สุดก็ต้องขอยอมแพ้ แล้วเดินทางกลับกรุงเอเธนส์
ยิ่งกว่านั้นระหว่างการรบ เขายังได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาไม่หายสนิท เมื่อกลับถึงกรุงเอเธนส์ก็ถูกตั้งข้อหาว่าเป็นผู้หลอกลวงประชาชนและผลาญเงินทองของรัฐ
ศาลและสภาแห่งเอเธนส์พิจารณาลงโทษมิสเทียดีสในศาล เขาถูกนำตัวไปศาลทั้งๆที่ยังนอนแบบคู้ตัวอยู่ ทั้งนี้ เพราะไม่อาจนั่งหรือยืนได้ ศาลตัดสินให้เขาใช้หนี้ แต่เขาก็ไม่มีเงิน เพราะกำลังยากจนมาก ในที่สุดเขาก็ถึงแก่กรรม เพราะบาดแผลที่ได้รับมาจากเกาะพารอสนั่นเอง

มีการกล่าวขานกันว่า การที่มิลเทียดีสพ่ายแพ้อย่างหมดรูป ก็เพราะมิลเทียดีสมีความเย่อหยิ่งยโสโอหังมากเกินไปจนลืมสักการะเทพอพอลโล และเทพจูปิเตอร์
ภาพนักวิ่งระยะไกล 3 คน ปรากฏบนโบราณวัตถุสมัย 333 ปีก่อนคริสตกาล.

ชาวเมืองฝังศพมิลเทียดีสในสุสานเก่าแก่แห่งหนึ่ง และไร้การเหลียวแลจากคนทั่วไป ดุจที่ฝังศพและสุสานของคนจรที่ไร้ญาติ นับได้ว่าเป็นแม่ทัพที่กล้าหาญ เกรียงไกร และโด่งดัง แต่ถูกผู้คนลืมเลือนมากที่สุดคนหนึ่งของกรีก
การวิ่งมาราธอนถูกบรรจุลงในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกในปี 1896 ที่เมืองเอเธนส์ โอลิมปิกครั้งนี้ผู้จัดต้องการสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมด้วยการรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของกรีกโบราณ 
ไอเดียการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ครั้งดังกล่าวจึงได้บังเกิดขึ้น และการแข่งขันวิ่งมาราธอนจึงถูกจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในวันที่ 10 มีนาคม 1896 ณ เมืองที่เป็นเจ้าของตำนานด้วยระยะทาง 42.195 กิโลเมตร เท่ากับที่ฟิดิปปิเดซเคยวิ่ง โดยผู้ชนะการแข่งขันทำเวลาได้ 3 ชั่วโมง 18 นาที.

รายการบล็อกของฉัน