ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

วางปืนมาเตะบอล! เหตุการณ์สุดประทับใจของ ทหารอังกฤษ-เยอรมัน ในสงครามโลก

😂วางปืนมาเตะบอล! 
เหตุการณ์สุดประทับใจของ ทหารอังกฤษ-เยอรมัน ในสงครามโลก
ในปี 1914 ความขัดแย้งอันสุกงอมของประเทศมหาอำนาจในยุโรปส่งผลให้สงครามโลกครั้งที่ 1 ระเบิดขึ้นในที่สุดในปลายเดือนกรกฎาคม โดยในช่วงห้าเดือนแรกเริ่มด้วยการที่เยอรมันเปิดฉากโจมตีฝรั่งเศสผ่านเข้าไปทางเบลเยียม 
เยอรมันนีตีรุกเข้าไปหวังยึดกรุงปารีส แต่ก็ถูกต่อต้านและตีโต้กลับอย่างหนักจากกองทัพฝรั่งเศสและอังกฤษในต้นเดือนกันยายน เยอรมันนีถอยร่นมาตั้งรับที่บริเวณเทือกเขา Aisne valley
แต่ก็ไม่มีฝ่ายใด สามารถเจาะทะลุแนวป้องกันของอีกฝ่ายได้ ตลอดระยะเวลา ทั้งสองฝ่ายทำการเสริมแนวป้องกันเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายเจาะผ่านมาได้ และได้เร่งสร้างแนวป้องกันเป็นแนวลวดหนามและสนามเพลาะขยายออกไปยังด้านทะเลเหนือ โดยต่างฝ่ายต่างเร่งแข่งกันขยายแนวของตัวเองออกไป ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวเรียกว่า “การแข่งขันสู่ทะเล” หรือ “Race to the Sea”
ต่างฝ่ายต่างโจมตีกันตลอด 5 เดือน 
จนล่วงเลยไปถึงธันวาคมเดือนแห่งการเฉลิมฉลอง และก่อเกิดเหตุการณ์สุดประทับใจที่กลายเป็นตำนานในประวัติศาสตร์สงครามโลกไปตลอดกาล แม้จะอยู่ในระหว่างสงคราม แต่ทหารเยอรมันก็ยังยึดประเพณีที่ทำต่อกันมาช้านานในคืนคริสต์มาสอีฟ คือร้องเพลงและจุดเทียนสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้า โดยอดีตทหารผ่านศึกชาวอังกฤษคนหนึ่ง 
ที่เคยอยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวเล่าว่า คืนนั้นพวกเขาเห็นแสงไฟระยิบระยับมาจากฝั่งค่ายทหารเยอรมันทั้งที่เป็นคืนเดือนมืดสนิท 
ทั้งยังได้ยินเสียงร้องเพลงเบาๆ จึงตั้งใจเงี่ยหูฟังและพบว่าเป็นเพลง Silent Night 
ในภาษาเยอรมัน

หลังจากนั้น ฝั่งทหารอังกฤษก็เริ่มร้องเพลงนี้ขึ้นมาบ้างในภาษาของตน เสียงเพลงสวดดังไปทุกหย่อมหญ้าในค่ายทหารทั้งสองฝั่งตลอดทั้งคืน จนกระทั่งดวงอาทิตย์ปรากฏขึ้นในเช้าวันที่ 25 ธันวาคม ทหารเยอรมันส่วนหนึ่งลอดแนวรั้วลวดหนามเข้าไปทักทายทหารอังกฤษว่า “Merry Christmas” 
ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของมิตรภาพท่ามกลางสงคราม ที่เรียกว่า Christmas Truce 
(พักรบวันคริสต์มาส)

หลังจากที่ได้ทักทายพูดคุยกัน ทหารทั้งสองฝ่ายเริ่มนำเสบียงที่ติดตัวมาแบ่งปันแลกเปลี่ยนกัน เช่น เหล้ารัม บุหรี่ซิการ์ ช็อกโกแลต รวมถึงขนมและผลไม้อื่นๆ อีกมากมาย 
เท่านั้นไม่พอ ยังชวนกันเล่นฟุตบอลซึ่งเป็นกีฬาที่กำลังเป็นที่นิยมในยุโรปก่อนช่วงสงครามด้วย โดยใช้กระดาษเก่าๆ ขยำรวมกันเป็นก้อน ซึ่งสามารถนำมาเล่นเตะกันได้ไม่แพ้ลูกฟุตบอลที่ทำจากหนังอย่างดี 
มีทหารทั้งสองฝ่ายราว 100,000 นายที่ได้พบปะกันตลอดแนวรบในเช้าวันนั้น

เมื่อผู้บัญชาการทั้งสองฝ่ายรับรู้เรื่องการพักรบในครั้งนี้ จึงตัดสินใจทำข้อตกลงกันว่าจะพักรบชั่วคราวจนถึงเวลา 8:30 น. ของวันที่ 26 ธันวาคม 1914 ซึ่งนายทหารชั้นสูงของเยอรมันได้มอบเบียร์ถังใหญ่ให้ฝั่งอังกฤษด้วย ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยและตกลงให้มีการหยุดยิงอย่างไม่เป็นทางการในวันคริสต์มาสเป็นเวลา 24 ชั่วโมง 

ข้อตกลงดังกล่าวเป็นที่รู้จักกันในนาม 
“ข้อตกลงพักรบวันคริสต์มาสปี 1914″ (Christmas Truce of 1914) โดยนอกจากจะมีการพบปะสังสรรค์กันแล้ว ก็จะให้มีการนำศพผู้เสียชีวิตในเขตพื้นที่ No Man’s Land ไปฝั่งให้ถูกต้องตามประเพณีด้วย
จากการบันทึกเล่าว่า มีทหารอังกฤษจากกองทัพแพทย์ทหารบกเขียนมาในจดหมาย
ที่ส่งกลับมาลอนดอนว่า 
พวกเขาได้ไปแข่งเตะบอลกับทหารฝั่งเยอรมันและแพ้ไป 3 ต่อ 2

บรรยากาศทั้งวันนั้นเต็มไปด้วยความชื่นมื่น แต่ถึงอย่างไรงานเลี้ยงก็คงต้องมีวันเลิกรา เมื่อถึงเวลา 8.30 น. ของเช้าวันรุ่งขึ้นก็เป็นอันสิ้นสุดข้อตกลง ผู้บัญชาการฝ่ายอังกฤษได้ทำการยิงปืนขึ้นฟ้าสองนัด เป็นสัญญาณสิ้นสุดขอตกลง และทางฝ่ายเยอรมันก็ยิงตอบกลับไปสองนัดเป็นการคอนเฟริม

แต่ทว่าถึงจะหมดช่วงระยะเวลาสงบศึกแล้ว ว่ากันว่าก็ยังไม่มีทหารฝ่ายใดยิงฝั่งตรงข้ามอีกสักพัก หนำซ้ำบางคนยังข้ามกลับไปกลับมาหาเพื่อนที่คุ้นเคยที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอยู่เรื่อยๆอีกด้วย
เหตุการณ์สงบศึกนี้ ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ แต่เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความรักระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกันว่า แท้จริงไม่มีใครอยากห้ำหั่นเอาชีวิตกัน และจริงๆแล้ว ยังมีทางเลือกอื่นเสมอในการแก้ปัญหา นอกจากสงครามและความรุนแรง
แม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่มิตรภาพนั้นไร้พรมแดน และไม่ต้องถูกจำกัดด้วยเชื้อชาติและภาษา 

จากความเคียดแค้นที่เห็นอีกฝ่ายฆ่าเพื่อนร่วมชาติมานานกว่า 5 เดือน พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แลกที่อยู่กัน และสัญญาว่าจะไปเที่ยวบ้านของอีกฝ่ายเมื่อสงครามสิ้นสุดลง เพราะทหารเยอรมันบางคนก็เคยทำงานและมีแฟนเป็นสาวอังกฤษก่อนสงคราม พวกเขารู้สึกดีต่อกันจนถึงขั้นว่ามีทหารเยอรมันประกาศว่า ‘หากท่านไม่ยิงอีก เราก็จะไม่ยิงท่าน เพราะไม่มีใครต้องการสงครามนี้ พวกเราอยากกลับบ้าน พวกเราอยากได้เพื่อน ไม่ใช่ศัตรู
100 ปีหลังจากเหตุการณ์ Christmas Truce อังกฤษได้สร้างประติมากรรมชิ้นหนึ่งชื่อว่า Christmas Truce 1914 Memorial ขึ้นเพื่อเป็นการระลึกถึงมิตรภาพที่แม้จะเกิดขึ้นในเวลาสั้นๆ แต่ก็ส่งผลกระทบด้านมิตรภาพของเพื่อนมนุษย์ที่มีต่อกันไปทั่วโลก
Christmas Truce of 1914

รายการบล็อกของฉัน