ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันจันทร์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2561

สุดอะเมซิ่งคนไทย บูชาปลัดขิก ยกเป็น Unseen Thailand

🔨ฝรั่งอ้าปากค้าง สุดอะเมซิ่งคนไทย ‘บูชาปลัดขิก’ ยกเป็น Unseen Thailand
เรื่องราวอะเมซิ่งของประเทศไทยไม่ได้มีแค่สถานที่ท่องเที่ยวเพียงเท่านั้น แต่ยังมีเกร็ดน่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและวัฒนธรรม ซึ่งได้กลายเป็นเรื่องราวสุดแปลกจนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ต้องอ้าปากค้าง และหนึ่งในไอเท็มพิเศษที่จะขอนำเสนอในครั้งนี้รับรองว่าน่าสนใจจนกลายเป็นอีกหนึ่ง Unseen Thailand ที่ฝรั่งทึ่งจนต้องซื้อกลับบ้าน…
นั่นก็คือ ‘ปลัดขิก’ (The Penis Shrine) นั่นเอง ! ปลัดขิกในที่นี้ไม่ใช่ปลัดหนุ่มรูปงามที่มีนามว่าขิกอย่างแน่นอน และคุณก็ไม่ต้องไปอ่านหนังสือสอบเพื่อบรรจุเป็นปลัดขิกหรอกนะ เพราะใครๆ ก็สามารถใกล้ชิดกับปลัดขิกได้…ตาม Rabbit Daily มาทำความรู้จักกับปลัดขิกให้มากขึ้นกันดีกว่า !
‘ปลัดขิก’ คืออะไร และมีที่มาอย่างไร ?
ปลัดขิก เครื่องรางของขลังตามความเชื่อของคนไทย

ปลัดขิก คือ เครื่องรางของขลังที่คนไทยนิยมบูชาตั้งแต่สมัยโบราณ มีลักษณะรูปทรงจำลองอวัยวะเพศชาย มีหลากหลายขนาดขึ้นอยู่กับผู้บูชา มักแกะสลักมาจากไม้มงคล หิน ทองแดงและเขาของสัตว์ บ้างก็เรียกว่าอ้ายขิก ไอ้ขิก หรือขุนเพ็ด นิยมแขวนไว้ที่เอวหรือตั้งบูชาในสถานที่ต่างๆ หากเป็นเด็กก็มักจะใช้แขวนที่คอ
ศิวลึงค์
ส่วนที่มาของปลัดขิกในประเทศไทนนั้นไม่ทราบอย่างแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าได้รับอิทธิพลมาจากชาวฮินดูในเอเชียตะวันออกที่นับถือพระอิศวรและบูชาแท่ง ‘ศิวลึงค์’ เมื่อเกือบ 2,000 ปีก่อน เพียงแต่แตกต่างกันตรงที่ปลัดขิกของไทยนั้นต้องผ่านการปลุกเสกจากผู้มีความรู้ด้านไสยศาสตร์ก่อนจะนำมาบูชาได้ นอกจากนี้คำว่าปลัดขิก 
อาจจะเพี้ยนมาจากคำว่า ‘ปราศวะ’ ซึ่งแปลว่า เคียงข้าง ในภาษาสันสกฤตเนื่องจากผู้บูชาจะต้องพกติดตัวไว้ ส่วนคำว่าขิกนั้นมาจากเมื่อมีผู้พบเห็นใครบูชาปลัดขิกก็มักจะ ‘หัวเราะคิกคัก’ จึงกลายเป็นที่มาของการเรียกปลัดขิกนั่นเอง
ความเชื่อดั้งเดิมของคนไทย
แม้คนไทยส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาพุทธ แต่ก็มีระบบความเชื่อแบบพุทธผสมพราหมณ์และสิ่งเร้นลับเหนือธรรมชาติรวมอยู่ด้วย การบูชาปลัดขิกเป็นเครื่องรางของขลังนั้นจะต้องนำไปให้เกจิอาจารย์ที่นับถือหรือผู้มีความรู้ด้านไสยศาสตร์ทำพิธีปลุกเสกก่อน เพราะเชื่อว่าจะให้พุทธคุณแก่ผู้บูชาในด้านต่างๆ เช่น ด้านเมตตามหานิยมและด้านการอยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดจากอันตราย คนไทยสมัยโบราณนิยมให้บุตรหลานเด็กเล็กๆ แขวนปลัดขิกไว้ที่เอวหรือทำเป็นจี้ห้อยคอ เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันภัยจากสัตว์ร้ายนานาชนิดได้ นอกจากนี้หากใครทำธุรกิจร้านค้าก็จะบูชาปลัดขิกเช่นกัน เพราะเชื่อว่าจะทำให้กิจการค้าขายรุ่งเรือง
ส่องสถานที่ ‘บูชาปลัดขิก’ ในกรุงเทพฯ
ศาลเจ้าแม่ทับทิม
ปัจจุบันนี้ก็ยังมีคนไทยกลุ่มที่นิยมบูชาปลัดขิก โดยจะไปหาเช่าของขลังจากวัดดังที่มีเกจิอาจารย์คอยปลุกเสก หรือไม่ก็นำปลัดขิกไปให้พระที่นับถือปลุกเสกลงอาคมให้ สำหรับในกรุงเทพฯ นั้น แต่เดิมเคยมีศาลจำนวนมากที่ตั้งบูชาปลัดขิก รวมทั้งศาลเจ้าบางแห่งที่มีชื่อเสียงเลื่องลือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อผู้ที่ไปกราบไหว้บนบานสิ่งใดไว้และสมหวังตามปรารถนา ก็มักจะนำปลัดขิกไปแก้บน เช่น ศาลเจ้าแม่ทับทิม ใกล้โรงแรมสวิสโฮเต็ลปาร์คนายเลิศ เขตปทุมวัน เป็นจุดที่มีผู้ศรัทธานำปลัดขิกไปวางไว้จำนวนมาก เนื่องจากเชื่อว่าหากใครมีบุตรยาก แล้วไปบนบานขอบุตรจากเจ้าแม่ทับทิมก็จะสมประสงค์ และหากใครที่สมหวังแล้วก็ต้องนำปลักขิกมาวางไว้ในบริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิมเพื่อเป็นการแก้บน นอกจากนี้ยังเชื่อด้วยว่าการบูชาปลัดขิกจะบันดาลให้ผู้บูชาร่ำรวย
ความนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
แน่นอนว่าในสายตาของชาวต่างชาติจะต้องมองการบูชาปลัดขิกเป็นเรื่องราวสุดอะเมซิ่งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะบริเวณศาลเจ้าแม่ทับทิม ที่กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องมาเยือนให้ได้ เพราะเต็มไปด้วยปลัดขิกขนาดแตกต่างกันมากกว่า 100 ชิ้น 
ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งแม้จะไม่ได้มีระบบความเชื่อเกี่ยวกับการบูชาปลัดขิกดังเช่นคนไทย แต่ก็นิยมซื้อปลัดขิกเพื่อเก็บไว้เป็นของสะสม และแม้จะมองว่าเป็นเรื่องราวสุดแปลกแค่ไหน แต่ศาลเจ้าที่ตั้งบูชาปลัดขิกก็ยังคงเป็นจุดสนใจที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องดั้นด้นมาชมด้วยตาของตัวเองให้ได้
สักครั้ง
รวมเรื่องราวในสังคมที่เกี่ยวข้องกับ ‘ปลัดขิก’
สุดท้ายนี้ แม้ความเชื่อเรื่องการบูชาของขลังก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็สะท้อนให้เห็นถึงการดำรงอยู่ของระบบความเชื่อและวัฒนธรรมโบราณของคนไทย ที่ได้รับอิทธิพลและเกิดการกลืนกลายกับศาสนาและวัฒนธรรมใกล้เคียง 
คนไทยหลายคนอาจรู้สึกเฉยๆ และคุ้นเคยกับเรื่องราวของปลัดขิก แต่สำหรับชาวต่างชาติจำนวนมากอาจเป็นเรื่องอะเมซิ่งสุดแปลกที่ไม่มีอยู่ในวัฒนธรรมของพวกเขา
เรื่องราวหลากหลายในสังคมไทยที่เชื่อมโยงกับ ‘ปลัดขิก’ เพื่อแสดงให้เห็นว่าการบูชาปลัดขิกนั้นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของคนไทยระบบความเชื่อและหลอมรวมเข้ากับระบบความเชื่อ โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัดที่สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด

รายการบล็อกของฉัน