ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันศุกร์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560

เรื่องจริงของการกลับชาติมาเกิด ที่จะทำให้เพื่อนๆขนลก ตอนที่1

การละรึกชาติ หรือ การกลับชาติมาเกิด เป็นความเชื่อที่มีมานานมากแล้วในอดีต ซึ่งเรื่องของพระเจ้าเป็นผู้ดลบันดารหรืออะไรกันแน่ การเกิดหลายพภหลายชาติ ทำความดีชาตินี้ ตายไป ชาติหน้าจะได้เกิดมาในพบภูมิที่ดี หรือแม้กระทั่ง 
การกลับชาติมาเกิดของคนภายในครอบครัว  เลยมาเกิดเป็นลูกของคนนี้ หมาเกิดเป็นคน หรือคนเกิดเป็นตัวตะกวด ผมเชื่อว่าเพื่อนๆคงจะเคยได้ยินความเชื่อแบบนี้มาบ้างแล้ว 

แต่ตอนนี้ผมขอนำเสนอ  

*ปาน
ในบางพื้นที่ของเอเชีย มีประเพณีทำสัญลักษณ์ไว้บนร่างกายของญาติที่เสียชีวิตไป โดยมักจะใช้เขม่าวาดเป็นสัญลักษณ์ไว้ โดยหวังว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวจะนำวิญญาณของผู้ตายให้กลับมาเกิดใหม่ในครอบครัวอีกครั้ง ว่ากันว่าสัญลักษณ์ดังกล่าวได้กลายมาเป็นปาน เป็นหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่าวิญญาณนั้นได้กลับมาเกิดใหม่แล้ว
ในปี 2555 จิม ทัคเกอร์ จิตแพทย์จากมหาวิทยาลัยแพทย์ของรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐเมริกา และ เจอร์เกน เกล นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแทสเมเนีย ได้ตีพิมพ์รายงานลงวารสารทางการแพทย์ ระบุถึงการศึกษาครอบครัวหนึ่งที่มีเด็กเกิดมาพร้อมกับปาน และมีความเชื่อมโยงกับญาติผู้ใหญ่ที่ล่วงลับ

เด็กคนดังกล่าวคือ K.H.(ชื่อย่อ) จากประเทศพม่า มีปานอยู่ที่แขนซ้าย จุดเดียวกับที่ตาของเขาถูกนำเขม่ามาป้ายไว้ตอนเสียชีวิต ตาของ K.H. เสียชีวิตได้เพียง 11 เดือนก่อนเขาเกิด จากนั้นเมื่อ K.H. มีอายุ 2 ขวบ เขาก็เรียกยายของเขาด้วยชื่อที่มีเพียงตาใช้เรียก ต่างจากคนอื่นๆ ในครอบครัว นอกจากนี้แม่ของ K.H. ก็เคยฝันด้วยว่าพ่อของเธอมาเข้าฝันแล้วบอกว่าอยากจะมาอยู่ด้วย ดังนั้นเธอจึงคิดว่า K.H. คือพ่อที่กลับชาติมาเกิดจริงๆ

*เกิดมาพร้อมกับรอยกระสุน
ในปี 2536 เอียน สตีเวนสัน ได้เคยตีพิมพ์รายงานฉบับหนึ่งในวารสารทางการแพทย์ ถึงเรื่องราวเกี่ยวกับปานและข้อบกพร่องโดยกำเนิด ซึ่งดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงกับความทรงจำในชาติก่อน จากการวิจัยพบว่าความบกพร่องต่าง ๆ มักจะเกิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ดังเช่นกรณีของเด็กชายในตุรกีที่จดจำชีวิตของชายคนหนึ่งซึ่งถูกยิงตายได้

บันทึกจากโรงพยาบาลชี้ว่า ชายคนดังกล่าวเสียชีวิตหลังถูกยิงที่กะโหลกศีรษะด้านขวาได้ 6 วัน ขณะที่เด็กชายคนนี้ก็เกิดมาพร้อมกับอาการใบหูเล็กแต่กำเนิด 1 ข้าง หูผิดรูป และใบหน้าด้านหนึ่งด้านใดเล็กกว่าปกติ ซึ่งอาการใบหูเล็กแต่กำเนิดจะเกิดกับทารกเพียง 1 ใน 6,000 คนเท่านั้น ขณะที่อาการใบหน้าเล็กข้างหนึ่งจะเกิดขึ้นกับทารก 1 ใน 3,500 คน
คนไข้ที่สังหารและแต่งงานกับลูกชายของตัวเอง

*ดร.ไบรอัน เวสส์ อ้างว่าเขาเคยพบกับคนไข้ที่สามารถระลึกชาติได้ระหว่างการสะกดจิตระลึกชาติ ในหนังสือ “Messages from the Masters: Tapping into the Power of Love” ดร.ไบรอัน ได้เล่าเรื่องของคนไข้ชื่อ ไดแอน หัวหน้านางพยาบาลที่บอกเล่าถึงประสบการณ์ของนักบุกเบิกในอเมริกาเหนือ ช่วงต้นยุคความขัดแย้งระหว่างชนพื้นเมืองอเมริกัน เธอยังพูดถึงเรื่องราวขณะที่ตัวเองพาลูกไปซ่อนตัวในช่องลับเพื่อหนีจากนักล่า ระหว่างที่สามีออกไปข้างนอกบ้าน
ไดแอนบรรยายว่า “ลูกชายที่อยู่ในวัยทารกของเธอมีปานรูปจันทร์เสี้ยวที่ไหล่ขวา” อย่างไรก็ตามในขณะที่ซ่อนตัวอยู่เด็กน้อยเกิดร้องไห้ออกมา ด้วยความกลัวเธอจึงพยายามทำให้ลูกเงียบด้วยการปิดปากเขา ส่งผลให้ทารกน้อยขาดอากาศหายใจตาย

ไม่กี่เดือนหลังจากที่ไดแอนเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว เธอก็รู้สึกเหมือนตัวเธอถูกดึงดูดเข้าหาผู้ป่วยโรคหอบหืดรายหนึ่ง ที่เขาเองก็รู้สึกคุ้นเคยกับเธอเช่นกัน และต่อมาไดแอนก็ต้องตกใจเมื่อได้สังเกตเห็นปานรูปจันทร์เสี้ยวอยู่บนไหล่ขวาของชายคนนี้ เวลาไปผ่านไปกระทั่งท้ายที่สุดเธอก็ได้แต่งงานกับเขา

*ลายมือ กลับชาติมาเกิด
ทารันจิต ซิงห์ อายุ 6 ขวบ เขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านอัลลูนา เมียนา ที่ประเทศอินเดีย อย่างไรก็ตามเด็กชายพยายามอ้างมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบว่าชื่อจริงของเขาคือ ซัทนัม ซิงห์ มาจากหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปกว่า 60 กิโลเมตร เขาจำได้ว่าตัวเองเป็นนักเรียนชั้น ม.3 มีพ่อชื่อ จีต ซิงห์ เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2535 เขาถูกรถชนขณะขี่จักรยานจนเสียชีวิต เด็กชายยังอ้างว่าหนังสือที่เขาถืออยู่ในวันนั้นชุ่มไปด้วยเลือด และมีเงิน 30 รูปีอยู่ในกระเป๋าตอนเกิดเหตุ

เมื่อ รันจิต ซิงห์ พ่อของทารันจิตได้ฟังเรื่องที่ลูกชายเล่าจึงคิดจะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยพบว่าครูในเมืองข้างเคียงบอกว่าในอดีตเคยมีเด็กนักเรียนชื่อ ซัทนัม ซิงห์ เสียชีวิตในอุบัติเหตุจริง ๆ และเมื่อรันจิตเดินทางไปยังครอบครัวของซัทนัมก็ได้รับการยืนยันถึงรายละเอียดของหนังสือและเงินตามที่ลูกชายเอ่ยอ้าง และเมื่อเขาพาลูกชายมาพบกับครอบครัวของซัทนัม ก็พบว่าทารันจิตสามารถระบุตัวบุคคลที่อยู่ในรูปครอบครัวนี้ได้อย่างถูกต้อง

นอกจากนี้เมื่อนักวิทยาศาสตร์ที่ได้ทราบเรื่องลองนำตัวอย่างลายมือจากสมุดบันทึกของซัทนัมมาเปรียบเทียบกับลายมือของเด็กชายในปัจจุบัน ก็พบว่าแม้เด็กชายจะยังไม่คุ้นเคยกับการเขียน แต่เขาก็มีลายมือที่ใกล้เคียงกับซัทนัมมาก

*พูดสวีเดนได้ทั้งที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนเอียน สตีเวนสัน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา ได้มีการศึกษากรณีอัจฉริยภาพทางภาษาในหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงกรณีของผู้ที่สามารถพูดภาษาที่ต่างไปจากภาษาในถิ่นฐานของพวกเขาด้วย โดยเอียนได้ศึกษาถึงกรณีของหญิงอเมริกันวัย 37 ปี ที่เขาเรียกเธอว่า TE 

TE เกิดและเติบโตในเมืองฟิลาเดลเฟีย สหรัฐฯ เป็นลูกสาวในครอบครัวอพยพที่พูดภาษาอังกฤษ โปแลนด์ ยิดดิช และรัสเซีย เธอเคยเรียนภาษาฝรั่งเศสจากที่โรงเรียน อย่างไรก็ตามเธอเป็นเพียงคนเดียวในครอบครัวที่สามารถพูดภาษาสวีเดนได้ทั้งที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อน อย่างไรก็ตาม ภายใต้การสะกดจิตที่ต่างกัน 8 ครั้ง พบว่าจิตของเธอได้กลายมาเป็นชายชาวสวีเดนชื่อ เจนสัน จาโคบาย และขณะที่อยู่ในฐานะของเจนสัน TE ก็สามารถพูดโต้ตอบกับชาวสวีเดนเป็นภาษาสวีเดนได้อย่างคล่องแคล่ว แม้เป็นคำที่ไม่เคยพูดมาก่อนก็ตาม

รายการบล็อกของฉัน