ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Wikipedia

ผลการค้นหา

วันศุกร์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2559

10 ตระกูลเก่าแก่ของไทย ที่ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน


10 ตระกูลเก่าแก่ของไทย ที่ยังสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

เราจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นทุกวัน!
คุณเคยได้ยินหรือได้เห็นนามสกุลไหนบ้าง??
ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 โปรดให้มีการตั้งนามสกุลขึ้นมาเพื่อความเป็นสากลเหมือนกับประเทศทางตะวันตก 

โดยพระองค์ให้ตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุลเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2455 ดังที่จะขอหยิบยกเอา 10 นามสกุลที่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ถึงตัวตนของบรรพบุรุษแต่ละนามสกุลมาให้ สมาชิกเพจได้ศึกษากัน

1. บุนนาค - นับว่าเป็นตระกูลที่เก่าแก่ที่สุดอีกตระกูลหนึ่งของไทย บรรพบุรุษของสกุลนี้สืบเชื้อสายมาจากพ่อค้าชาวเปอร์เซีย (อิหร่าน) มีนามว่า 「เฉกอะหมัด」 ที่เข้ามารับราชการในกรุงศรีอยุธยา ต่อเนื่องมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ที่เชื้อสายของตระกูลนี้ได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่หลายท่าน บางท่านได้เป็นถึงผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน และยังเป็นต้นกำเนินของพระมเหสี พระราชโอรส-ธิดาอีกหลายพระองค์ นับได้ว่าช่วงหนึ่งของกรุงรัตนโกสินทร์นั้น บุนนาค เป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลสูงสุดของไทย

2. ณ บางช้าง - สกุลเก่าแก่ที่สืบสายมาแต่ ขุนนางและเจ้านายในวงศ์พระร่วงแห่งกรุงศรีอยุธยา และยังเป็นต้นกำเนิดของท่านผู้หญิงนาค ภริยาเอกในเจ้าพระยาจักรี ภายหลังท่านผู้หญิงนาคผู้นี้ก็คือ สมเด็จพระอมรินทราบรมราชินีในรัชกาลที่1 และเป็นพระบรมราชชนนี(แม่)ในรัชกาลที่2ซึ่งแตกมาเป็นราชสกุลดังๆ เช่น กุญชร,ปราโมช,มาลากุล,สนิทวงศ์ เป็นต้น

3. วัชโรทัย - สืบสกุลมาจากพระยาอุทัยธรรม เจ้ากรมภูษามาลาในรัชกาลที่1 ซึ่งพระยามีชื่อนี้ท่านเคยรับราชการเป็นภูษามาลาในสมัยกรุงศรีอยุธยามาแล้ว เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกขึ้นปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ จึงเข้ามาถวายตัวเป็นข้าทูลละอองพระบาท จึงทำให้สกุลวัชโรทัยรั้งตำแหน่งหน้าที่ภูษามาลาอย่างต่อเนื่องมาจนถึง รัชกาลปัจจุบัน

4. สุจริตกุล - ต้นตระกูล คือหลวงอาสาสำแดง และท้าวสุจริตธำรง ผู้สืบเชื้อสายมาจากขุนนางในราชสำนักกรุงศรีอยุธยา ในกรุงรัตนโกสินทร์ ถือได้ว่าเป็นสกุลที่มั่งมีวาสนาและเก่งด้านการค้าพอสมควร พระอัครมเหสีและราชินีหลายพระองค์มีเชื่อสายมาจากสกุลนี้ เช่น พระนางเจ้าสุนันทา(พระนางเรือร่ม), พระนางเจ้าสว่างวัฒนา(พระอัยยิกาหรือย่าในพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน) , และพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ผู้เป็นต้นกำเนิดราชสกุล「จักรพงษ์」 เป็นต้น

5. ณ ป้อมเพชร - ตระกูลนี้เก่าแก่พอดู สืบทอดเชื่อสายและรั้งตำแหน่งขุนนางใหญ่มาแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ปลูกบ้านอยู่บริเวณป้อมเพชร ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระสมุทบุรานุรักษ์ ผู้สืบเชื้อสายได้รับพระกรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์เป็น 「พระยาชัยวิชิตวิศิษฏ์ธรรมธาดา」 (ขำ ณ ป้อมเพชร์) อธิบดีกรมราชทันฑ์คนแรกของประเทศไทย

6. โรจนกุล - ตระกูลของเจ้าพระยาพิษณุโลก สืบเชื้อสายมาจากบิดาซึ่งเป็นพราหมณ์ชื่อ พราหมณ์ศิริวัฒนะ ราชปุโรหิตในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 3 แห่งกรุงศรีอยุธยา

7. อมาตยกุล - เป็นอีกตระกูลที่รั้งตำแหน่งขุนนางตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา และเป็นขุนนางสืบต่อกันมาเรื่อยโดยไม่เว้นช่อง ตั้งแต่แผ่นดินพระเจ้าอยู่หัวปราสาททอง จนถึงกรุงธนบุรี จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ รวมแล้วกว่า3ราชวงศ์ 15 รัชกาล เพราะถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทอย่างเต็มกำลังและสุจริต จึงทำให้หลายท่านเป็นพระยา เป็นขุน เป็นหลวง เป็นพระ และแตกสาขาออกไปอีกนับร้อย จึงนับว่าลูกหลานในสกุลนี้ส่วนใหญ่จะเป็นข้าราชการเกือบทั้งสิ้น

8. ณ นคร - สืบเชื้อสายมาจากพระเจ้าขัตติยราชนิคม สมมติมไหสวรรย์ เจ้าผู้ครองนครศรีธรรมราช แห่งราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช มีบรรดาศักดิ์เป็นหลวงนายสิทธิ์ นายเวรมหาดเล็กในสมเด็จเจ้าฟ้าอุทุมพร กรุงศรีอยุธยา ต่อมาได้รับตำแหน่งเป็นปลัดเมืองนครศรีธรรมราช

9. บุรณศิริ - เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี ต้นตระกูล "บุรณศิริ" เป็นผู้สืบเชื้อสายจากพราหมณ์เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย เข้ารับราชการตั้งแต่สมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชแห่งกรุงศรีอยุธยา ครั้นถึงรัชกาลที่ 4 ต้นตระกูล บุรณศิริ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น "เจ้าพระยาธรรมกรณาธิบดี" เสนาบดีกระทรวงวัง ต่อมาเมื่อชราได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯเปลี่ยนราชทินนามเป็น 「เจ้าพระยาสุธรรมมนตรี」

10. ราชตระกูลสายสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก - ซึ่งสืบเชื้อสายมาจาก เจ้าพระยาโกษาธิบดี (ปาน) เสนาบดีพระคลังในรัชกาลสมเด็จพระเพทราชา ผู้ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นออกพระวิสุทธสุนทร และได้เดินทางไปถวายพระราชสาส์นของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ยังราชสำนักของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เมื่อ พ.ศ. 2228 มีดังนี้ นรินทรางกูร เทพหัสดิน มนตรีกุล อิศรางกูร เจษฎางกูร นรินทรกุล

รายการบล็อกของฉัน