😬บังเอิญไปเจอโรคแปลกๆโรคนี้..มาก็เลยเอามาเรียบเรียงเป็นบทความนำเสนอ..ครับสำหรับผู้ชายแล้วไม่มีใครอยากเป็นโรคนี้แน่นอน เขาเรียกว่าโรคโรคหำหด หรือ โรคจู๋ (อังกฤษ: Koro, penis panic)
👉🏿โรคหำหด ตามความเป็นจริงแล้วโลกนี้มันน่าจะเกิดจากอารมณ์ความรู้สึกต่างๆที่ทำให้ฝ่ายชายมีอาการหรืออาจจะเกิดจากความเชื่อภาวะที่ถูกครอบงำโดยความเชื่อที่ว่าอวัยวะเพศของบุคคลนั้นกำลังหดสั้นลงหรือมีขนาดเล็กลง ด้วยความกลัวว่าอวัยวะนั้นจะหายไปในที่สุด
👉🏾สุดท้ายแล้วความกลัวมันก็ไปสะกดจิตความรู้สึกตัวเองอวัยวะเพศที่เคยใหญ่ยาวกับหดสั้นจู๋ลงก็อาจจะเป็นได้
😁เรามาเข้าเรื่องสาระบทความกันเลยดีกว่านะครับ
👉🏿โรคหำหด หรือ โรคจู๋ (อังกฤษ: Koro, penis panic) เป็นกลุ่มอาการป่วยทางวัฒนธรรมที่ได้รับการรับรองใน Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders ฉบับตีพิมพ์ครั้งที่สี่ เป็นภาวะที่ปัจเจกชนถูกครอบงำโดยความเชื่อที่ว่าอวัยวะเพศของบุคคลนั้นกำลังหดหรือมีขนาดเล็กลง ด้วยความกลัวว่าอวัยวะนั้นจะหายไปในที่สุด
🥴ข้อมูลเบื้องต้น โรคจู๋ Koro, บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก ...
ถึงแม้ว่าโรคนี้จะมีที่มาจากในประเทศจีนและพบมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กรณีที่หายากของโรคจู๋อาจพบในบุคคลที่ไม่มีเชื้อชาติจีนทั่วโลก การลุกลามของโรคเคยขึ้นในบางประเทศ ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน อุปาทานหมู่ที่เชื่อว่าอวัยวะเพศของตนกำลังหดเล็กลงนั้นมีการรายงานในทวีปแอฟริกาด้วยเช่นกัน
👉🏾การจำแนก
ใน Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders โรคจู๋ถูกจัดเป็นหนึ่งในโรคในอภิธานกลุ่มอาการที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมในภาคผนวก I คู่มือดังกล่าวได้จำกัดความโรคจู๋ไว้ว่า "คำดังกล่าว [Koro] ซึ่งอาจมีที่มาจากภาษามลายู หมายความถึง ความวิตกกังวลฉับพลันและแรงกล้าที่ว่าองคชาต (หรือ ในผู้หญิง โยนีหรือหัวนม) กำลังหดเข้าสู่ร่างกายและอาจทำให้ถึงแก่ความตายได้"
👉🏿นักประพันธ์หลายคนพยายามจำแนกระหว่างโรคจู๋ที่สมบูรณ์กับไม่สมบูรณ์ เช่นเดียวกับรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมและไม่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรม รูปแบบวัฒนธรรมถูกกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับความเชื่อวัฒนธรรมหรือเทพนิยาย มีบทบาทในการก่อให้เกิดโรค และการแพร่กระจายของโรคในชุมชน และถูกจัดให้เป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ โดยเป็นไปตามเกณฑ์ของกลุ่มอาการทั้งหมด
😁อาการและอาการแสดง
ผู้ป่วยส่วนใหญ่บ่นเกี่ยวกับการหดตัวของอวัยวะเพศหรืออวัยวะเพศมีขนาดเล็กลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในบางครั้ง เกิดขึ้นทั้งสองอย่าง อาการนี้มักจะเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง ถึงแม้ว่าระยะเวลาสามารถเกิดขึ้นได้นานถึงสองวัน
🙄ยังมีกรณีที่อาการของโรคจู๋เกิดขึ้นเป็นเวลาหลายปีซึ่งอาจเป็นอาการเรื้อรังและเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากการหดตัวแล้ว อาการแสดงอื่นยังรวมไปถึงความเข้าใจว่าองคชาตของตนเปลี่ยนแปลงรูปร่างไป การสูญเสียการแข็งตัวของกล้ามเนื้อองคชาต และในบางกรณี ที่ผู้ป่วยไม่เข้าใจว่าตนมีอวัยวะเพศหดเล็กลง แต่กล่าวว่ามีความรู้สึกสัมผัสเพี้ยนทางเพศหรือมีความเสื่อมถอยทางเพศด้วย
😬โรคประสาทกังวลนี้ยังประกอบด้วยความคิดกลัวว่าตนอาจเสียชีวิตในไม่ช้า การสลายตัวขององคชาตและการสูญเสียพลังทางเพศ ความเข้าใจว่าตนอาจเสียชีวิตได้เนื่องจากการหดตัวของอวัยวะเพศและรับรู้ว่ามีการหลั่งน้ำอสุจิออกมามากผิดปกตินี้มีความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมกับความเชื่อจีนโบราณอย่างแรงกล้า ดังที่ได้แสดงโดยข้อเท็จจริงที่ว่าโดยทั่วไปแล้ว ชาวเอเชียที่เชื่อว่าอวัยวะเพศของตนหดเล็กลงนั้นเชื่อว่าสภาวะดังกล่าวเป็นเรื่องถึงชีวิต ไม่เหมือนกับชาวตะวันตกส่วนใหญ่ แนวคิดอื่น ๆ ได้แก่ การหดตัวของอวัยวะในช่องท้อง การเปลี่ยนเพศเป็นหญิงหรือขันที การเกิดอันตรายทางกายโดยไม่เฉพาะเจาะจง การอุดตันของทางเดินปัสสาวะ การเป็นหมัน การทำให้เกิดอาการบ้า อาการผีเข้า และความรู้สึกว่าตนถูกมนต์สะกด
สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการวิตกกังวลอย่างมากและสมาชิกครอบครัวอาจหันไปพึ่งวิธีการทางกายภาพเพื่อป้องกันการหดตัวขององคชาตที่เชื่อกันนั้น
🤔ชายอาจใช้การดึงองคชาตด้วยตนเองหรือใช้เครื่องจักร โดยใช้วงเชือกหรือเครื่องหนีบบางประเภท ในลักษณะคล้ายกัน หญิงอาจคลำหน้าอกของตน ดึงหัวนม หรือแม้กระทั่งเสียบหมุดเหล็กเข้าไปในหัวนม ความเจ็บปวดทางกายเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งสามารถถูกพิจารณาได้ว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของอาการดังกล่าว
🥴สาเหตุ
ความขัดแย้งจิตใจ-เพศ ปัจจัยส่วนบุคคล และความเชื่อทางวัฒนธรรมได้รับการพิจารณาว่ามีส่วนสำคัญที่เป็นสาเหตุของโรคจู๋ ประวัติการปรับตัวทางเพศของผู้ป่วยที่ไม่ใช่ชาวจีนมักจะมีความโดดเด่นอยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่น ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศก่อนเกิดโรค พฤติกรรมสำส่อนทางเพศ ความรู้สึกผิดเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองและภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ
👉🏿ความเชื่อทางวัฒนธรรม
ปัจจัยด้านความเชื่อที่ก่อให้เกิดโรคจู๋นี้เป็นแนวคิดเกี่ยวกับสรีรศาสตร์เพศในการแพทย์จีนโบราณ ซึ่งมีการเชื่อมโยงความตายเข้ากับการหดตัวของอวัยวะเพศ
🥴ในตำราแพทย์จีนโบราณ จงจ้างจิง (จีนตัวย่อ: 中藏经; จีนตัวเต็ม: 中藏經) การหดตัวขององคชาตและการบวมของท้องอาจได้รับการอธิบายว่าเป็นชีวสัญญาณที่แน่ชัดของความตาย ทฤษฎีหยินและหยางให้แนวคิดที่ว่าการสูญเสียหยางทำให้เกิดความไม่สมดุลและก่อให้เกิดการหดตัวของอวัยวะเพศ
🙄มุมมองที่ไม่เป็นวิทยาศาสตร์นี้ถือกำเนิดขึ้นในลัทธิเต๋า ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อคติด้านการแพทย์ของจีน เสนอว่า การหลั่งอสุจิบ่อยครั้งทำให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ เนื่องจากน้ำอสุจิถูกมองว่าเป็นพลังงานที่สำคัญของเพศชาย ด้วยเหตุนี้ การหมดไปของน้ำอสุจิจะทำให้เสียชีวิตได้ แนวคิดที่ว่าความตายเกิดขึ้นจากการหมดไปของน้ำอสุจิคล้ายคลึงกับแนวคิดที่ว่าความตายเกิดขึ้นจากการหดเล็กลงของอวัยวะเพศ ถึงแม้ว่าความเชื่อมโยงระหว่างโรคจู๋และลัทธิเต๋าจะยังคงเป็นเพียงทฤษฎีก็ตาม
🥴ความเป็นที่นิยมของนิทานพื้นบ้านของจีนเองก็เข้ามามีบทบาทด้วยเช่นกัน นวนิยายเกี่ยวกับเรื่องผี เรื่องแปลกในห้องเหลียวไจ๋ อธิบายถึงวิญญาณสุนัขจิ้งจอกที่สามารถทำให้ผู้คนมีร่างกายและเพศอ่อนแอ และทำให้เนื้อเยื่อของพวกเขามีขนาดหดเล็กลง ความเชื่อที่ว่าโรคจู๋เกิดจากวิญญาณสุนัขจิ้งจอกนี้ได้รับรายงานในแถบตอนใต้ของจีน
🤔การวินิจฉัย
การวินิจฉัยโรคจู๋มีเกณฑ์อยู่หลายประการ: การหดตัวขององคชาติ (หรือหัวนม) ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการหดตัวนั้น ความกลัวเสียชีวิตอันเป็นผลมาจากการหดตัวนั้น และการใช้เครื่องจักรเพื่อป้องกันการหดตัวอย่างสมบูรณ์ของอวัยวะ กรณีที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ทั้งหมดมักจะถูกจัดเป็นกลุ่มอาการคล้ายโรคจู๋ หรือวินิจฉัยว่าเป็นกลุ่มอาการโรคจู๋บางส่วน แต่ได้มีการโต้แย้งว่าเกณฑ์การวินิจฉัยนี้เพียงพอแต่ไม่จำเป็นในการวินิจฉัยโรคจู๋
😁เป็นอย่างไรบ้างครับอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายของบทความ เรื่อง โรคหำหด มันจะได้ไขความกระจ่างสำหรับสาเหตุ ที่ผู้ชายหลายๆคน ที่กำลังเป็น หรือ กังวล...กลัวการหดของหำ หำหด จะได้รู้วิธีและหาทางป้องกันและได้ทราบว่าสาเหตุมันเกิดจากอะไรนะครับหวังว่าบทความนี้คงจะมีสาระสำคัญสำหรับคุณผู้ชายหลายๆคนนะครับ
คลิปวีดีโอประกอบบทความ